Category ข่าวบันเทิง

นักแสดงรุ่นใหญ่อารมณ์ดี แตน ราตรี วิทวัส เปิดใจถึงสาเหตุส่ง DNA ไปตรวจเพื่อตามหาครอบครัวที่อเมริกา
หากแม้ตัวเองจะอายุ 56 ปี ก็ยังต้องการเจอบิดาแท้ ๆ สักครั้งในชีวิต

พร้อมเปิดตัว น้องเนเน่ ลูกสาวคนที่ 3 ที่แรกผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี หนิง ปณิตา รวมทั้งบูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ในขณะนี้มีข่าวว่าพี่แตนตามหาบิดาแท้ ๆ ที่ไม่เคยเจอ
ไม่เคยมองเห็นหน้ากันเลย ทำไมอยู่ ๆ พึ่งคิดจะมาตาม?

แตนราตรี : “จริง ๆ ความคิดมันมีมานานแล้วนะ เพียงแต่เราติดที่คุณพ่อใหม่อยู่ ซึ่งคุณแม่มีคุณพ่อใหม่ เราก็เกรงใจ เพราะคุณพ่อใหม่ให้ความรักกับเราเหมือนลูกแท้ๆ ความคิดมันมาเป็นระยะๆ”

แต่เกรงใจคุณพ่อคนใหม่?
แตน : “ใช่ เขาดูแลเราดีมากๆ ถึงจะมีน้องใหม่ ก็เลยทำให้เราไม่คิดจะทำอะไรเลย เบรกไว้ๆ”

ก่อนที่เราจะตามหาเราทราบได้ยังไงว่าบิดาเราเป็นอเมริกัน หรือว่าเป็นฝรั่งทางไหน?
แตน : “ก็มีปู่ ย่า ตา ยาย พี่ ป้า น้า อา เขาบอกว่าพี่แตนเป็นลูกครึ่งอเมริกา เมื่อก่อนมีรูป มีอะไร ตอนประมาณ ป.2 พี่แตนยังใช้นามสกุลเขาอยู่เลย พอมีพ่อใหม่ก็เลยเปลี่ยนมาใช้นามสกุลพ่อใหม่”

เพราะอะไรไม่ถามข้อมูลโดยตรงกับคุณแม่ว่าไปเจอที่ไหน ไม่ต้องประกาศตามหา?

แตนราตรี : “คุณแม่เสียไปแล้ว ตอนคุณแม่อยู่แกถามว่าไม่อยากเจอเหรอ ด้วยความจริงเลยนะ อยากเจอ อยากรู้ว่าคุณพ่อเราอยู่ตรงไหน ทำอะไร

พอหันมาดูเห็นคุณพ่อใหม่ก็กลัวเขานอยด์ มันก็เลยเบรกไว้ทุกอย่าง แต่ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่แล้ว ก็มาเจอเพื่อน ซึ่งอยู่ในวงการด้วยกันนี่แหละ

ก็ถามว่ายากไหม ลำบากไหม เขาเจอแล้ว แล้วความคิดที่เราจะเจอมันเลยกลับมาอีกรอบนึง”

แตน ในขณะนี้

ความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว?

แตนราตรี : “เจอแล้ว DNA พี่แตนเป็นไทย กัมพูชา ส่วนคุณพ่อเป็นอังกฤษ สกอตแลนด์”

ได้มีโอกาสเจอหน้ากันหรือยัง?

แตนราตรี : “ยังเลยค่ะ”

เป็นรู้ว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน?

แตน : “ใช่ คือรู้ว่าอยู่อเมริกาแน่นอน”

แล้วเขาทราบยัง?

แตน : “ยังเลย เราทักไปๆ หลายวันแล้ว คือเขาไม่ตอบเราเลย”

เขาบางทีก็อาจจะไม่ได้เล่นโซเชียลทุกวันก็ได้?

แตนราตรี : “น่าจะเป็นไปได้ หรือไม่เฟซเขาปิดไปแล้วหรือเปล่า เราก็ไม่รู้ แต่เราก็พยายามทุกอย่างที่อยากจะคุยกับเขา อยากเจรจา เจตนาเราไม่ได้ต้องการอะไรเลย เพียงแค่ลูกหลานเราเผื่อไปเที่ยวหรือไปรู้จักกันแค่นี้”

แตนราตรี เปิดตัวลูกสาว น้องเนเน่ สวยออร่านางเอก พร้อมประกาศตามหาพ่อแท้ ๆ เนเน่ต้องการเจอคุณตาไหม?

เนเน่ : “ส่วนตัวหนูยังไงก็ได้ เจอก็ดีใจ ถ้าไม่เจอก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงเขาก็เป็นคุณตาของเราอยู่ดี”

เนเน่ทราบมาก่อนไหมว่าคุณแม่พยายามตามหาหรือต้องการเจอคุณตา?

เนเน่ : “ไม่รู้เลยค่ะ แม่โผล่มาอีกทีแม่ตรวจ DNA แล้ว หาคุณตาเจอแล้ว เน่ก็งงเหมือนกันค่ะ”

เพื่อนคนที่พี่แตนบอกว่าช่วยตามหา แล้วตรวจ DNA จนกระทั่งเจอ เป็นพี่มอริส เค หรือไม่?

แตนราตรี : “ใช่ พี่มอริส เค ซึ่งทางมอริส เค เขายอมรับแล้ว เหมือนตอนนี้เขาเจอญาติเขาเรียบร้อยแล้ว บินไปหากัน คุยกันเรียบร้อย เรารู้สึกว่าเราอยากเจออย่างนั้นบ้างสักหน่อยนึงก็ยังดี แต่ของเรายังเงียบกริบเลย เราก็ให้ลูกตามทุกอย่าง แต่ก็มีอันที่เราต้องตรวจลึกไปอีก นี่ตรวจกันคร่าวๆ ว่าใช่ของเราอยู่อเมริกาจริงๆ”

ในโซเชียลที่ไปตามได้เห็นรูปบ้างหรือเปล่า?

แตน : “เห็นๆ”

เหมือนพวกเราบ้างหรือเปล่า?

แตนราตรี : “เหมือนจะเป็นน้องนะ อายุเขาประมาณ 40 กว่าเอง เพราะพี่แตน อายุ 50 กว่า น่าจะเป็นลูกของลูก หรือไม่ก็เป็นลูกของพ่อ ซึ่งอาจจะเป็นน้องเรา”

พี่แตนทักไปทุกคนที่รู้สึกว่าน่าจะเป็นญาติ?

แตนราตรี : “ใช่ ถูก เขาจะเรียงลำดับมาเลยนะ คนที่ใกล้ชิด DNA ก็จะใกล้ที่สุด มี 10 คน พี่ก็ทัก 10 คนเลย ถ้ามันอยู่บนเฟซ”

แสดงว่าวันนี้ หากแม้เขาไม่ตอบมา พวกเราก็ไม่หมดหวังที่จะทำ?

แตนราตรี : “ยังค่ะ เพราะมันยังมีหนทางอยู่”

10 คนที่ทักไป ยังไม่มีใครตอบมาเลย?

แตน : “ยังค่ะ เงียบกริบหมดเลย อยากให้เขาตอบกลับมา ญาติห่างๆ ก็ได้หรืออะไรก็ได้ เราอาจจะคุยทักทายกันว่ายังไงแค่นั้นเอง ด้วยความที่เขาอาจจะตกใจด้วยมั้ง”

ประมาณกี่ปีแล้ว?

แตนราตรี : “น่าจะ 50 ปีแล้วที่คุณพ่อไป ตั้งแต่คุณแม่ท้อง พี่แตนก็ยังไม่เคยเห็นหน้าคุณพ่อเลย ตอนนั้นคุณพ่อก็ 40 กว่านะที่มีเรา”

แสดงว่าคนที่พวกเราทักไปในโซเชียลยังไม่ใช่คุณบิดา เป็นแค่ญาติ?

แตน : “ญาติ อันนี้เดานะ คุณพ่อน่าจะเสียแล้ว เพราะว่าตอนที่คุณพ่อกับคุณแม่แต่งงานกัน คุณพ่ออายุ 40 กว่าแล้ว คุณแม่ประมาณ 18-19 แล้วตอนนี้พี่ 50 กว่าแล้วคิดดูสิ ประมาณ 90 กว่า เราคิดนะ ถ้าสมมติเขาเสีย ท่านอาจจะมีลูก หลานอยู่ที่นี่ DNA มันตรงกับเราอยู่ ถ้าใครต้องการ เจอพ่อ เจอแม่ ทักพี่แตนมาเลย เดี๋ยวหาข้อมูลได้ง่าย เพียงแต่ว่าเขาจะติดต่อกลับมาเหมือนพี่หรือเปล่า ต้องใช้ความพยายามหน่อย เพราะว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก”

มีอยู่คำหนึ่งหนูจะบีบคั้นมาก มีคนมาพูดกับหนูว่า ทำอะไรให้นึกถึงหน้าบิดามารดาหน่อย จริงไหม?

เนเน่ : “จริงค่ะ เหมือนทุกครั้งที่จะต้องทำอะไร ลูกดาราเขาจะต้องเป็นคนดี อยู่ในกรอบจะต้องเรียนหนังสือเก่ง ต้องกินหรู อยู่แพง แล้วหนูไม่ใช่แบบนั้นเลย หนูเป็นคนกินอะไรก็ ไปไหนก็ได้ แต่งตัวบ้าๆ บอๆ จนเพื่อนถามเป็นลูกดาราจริงปะเนี่ย”

คนภายนอกเขาดูกันเหรอว่าเป็นลูกดารา ต้องกินหรู อยู่แพง? เนเน่ : “พยักหน้า”

แตนราตรี : “อาจจะคิดอย่างนั้นมั้ง”

สังคมภายนอกบางทีอาจคิดแบบนั้น?

เนเน่ : “คงเป็นแบบนั้นค่ะ”

ซึ่งความเป็นจริง ลูกดาราอยู่กับดิน กินกับหญ้า?

แตนราตรี : “ใช่ เขาไม่ได้มองมุมนั้นไง”

โดนว่าอย่างนี้ พูดตอบไปว่ายังไง?

เนเน่ : “หนูก็ตอบกลับไปเลยว่าก็คนเหมือนกัน ดาราก็แค่โชว์หน้าทีวีเฉย ๆ ”

เรากดดันไหม พอเป็นลูกดาราทุกคนจับจ้อง?

เนเน่ : “ตอนแรกก็กดดันนะคะ แต่ไป ๆ มา ๆ ไม่สนใจแล้ว ใครอยากพูดอะไรก็พูดเลย ไม่ได้เอามาคิดมาก”

ที่พูดว่าคุยกันพิจารณาทะเลาะกัน 10 คำเป็นยังไง?

แตนราตรี : “คือเนเน่เขาจะมีอะไรของเขา ภาษาวัยรุ่น คุณแม่ฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่องหรอก แล้วเวลาพูดที แม่ไม่รู้เรื่องหรอก แม่ไม่เข้าใจหรอก แต่เขาก็ไม่อธิบาย”

เนเน่ : “เวลาไปเที่ยวขอเวลานี้ ๆ กลับเองก็ได้ ไม่ต้องให้พ่อแม่ไปรับก็ได้ คือ 17 แล้ว ดูแลตัวเองได้”

แตนราตรี : “เนี่ย พูดคำนี้ตลอด 17 แล้วหนูดูแลตัวเองได้ คุณพ่อคุณแม่ต้องไปนั่งรอ 5 ทุ่มคุณลูกยังไม่โผล่”

เนเน่ : “อาจจะเป็นคอนเสิร์ตอะไรแบบนี้ แล้วเขาเลิกเที่ยงคืน หนูก็อยากฟังวงที่ชอบก็ฟังไม่เคยทันสักรอบ คุณพ่อคุณแม่ไปรับกลับมาก่อน”

อย่างแต่งตัวล่ะ สายเดี่ยวใช่ไหม?

เนเน่ : “ใช่ค่ะ แม่ก็จะบอกว่าแต่งตัวไปไหน ทำไมแต่งตัวแบบนั้น หนูก็จะบอกว่า ก็สวยอะแม่”

วันนี้เนเน่มีอะไรอยากจะบอกแม่?

เนเน่ : “อยากจะบอกให้แม่เชื่อใจหนูบ้าง บางทีหนูไปนู่นไปนี่ก็อยากไปคนเดียวบ้าง แม่เขาจะแบบต้องไปกับเพื่อนนะ ไปคนเดียวไม่ได้นะ ก็อยากให้แม่เชื่อใจบ้างว่าไปได้”

แม่ต้องการบอกอะไรเขา?

แตนราตรี : “ที่แม่ห่วง ที่แม่รัก อยากให้ผ่านตรงนี้ไปก่อน ซึ่งตอนนี้มันเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ สิ่งอะไรที่หนูไม่เคยเห็นหนูจะตื่นเต้น อันไหนที่ระงับใจได้ก็ดี อันไหนที่ระงับไม่ได้เดี๋ยวมันจะเตลิดไป คือรักเขา เป็นห่วงเขา ไม่มีอะไรมากหรอก”

“คิมซอกจิน” หรือ “จิน BTS” พี่ใหญ่วงบอยแบรนด์ดัง เผยภาพผมทรงใหม่ตัดสกินเฮดก่อนเข้ากรม 13 ธ.ค. นี้
พร้อมแคปชั่นสุดน่ารัก ที่อ่านแล้วต้องยิ้ม ทำแฟน ๆ แห่คอมเมนต์

เรียกได้ทำเอาแฟนคลับหลายท่าน ต่างพากันใจหายกันอยู่ไม่น้อย ภายหลังต้นสังกัด HYPE ของพี่ใหญ่ของบอยแบนด์ดังเกาหลี BTS อย่าง จิน BTS หรือ คิมซอกจิน ได้ออกมาเปิดเผยกำหนดการจะเข้ากรมทหารรับใช้ชาติในวันที่ 13 เดือนธันวาคมนี้แล้ว ถึงแม้ว่าก่อนหน้าที่ผ่านมา ทางรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้จะได้สำรวจความคิดเห็นประชาชน เพื่อร่างกฎหมายยกเว้นไม่ให้สมาชิกวง BTS ต้องเกณฑ์ทหาร เนื่องจากสร้างรายได้ให้ประเทศมหาศาล
จากความโด่งดังทั้งโลกของพวกเขา
แต่สุดท้ายแล้ว สมาชิกทุกคนยืนยันว่า จะเข้ากรมเป็นเวลา 2 ปี เมื่ออายุถึงเกณฑ์ แสดงความเคารพต่อกฎหมายที่ชายประเทศเกาหลีใต้ทุกคนต้องปฏิบัติตามนั้น
ความก้าวหน้า

ล่าสุด จิน ได้เผยภาพผมทรงใหม่ที่เขาตัดสกินเฮด

เพื่อเตรียมตัวเข้ากรม ผ่านแอพพลิเคชั่น Weverse พร้อมแคปชั่นสุดน่ารัก ว่า “น่ารักกว่าที่ฉันคาดไว้” ซึ่งภายหลังจากที่เจ้าตัวเผยรูปตัดทรงผมสกินเฮด ก็ได้มีแฟน ๆ และชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความเห็น โดยส่วนมากเมนต์ไปในทางเดียวกันว่าน่ารักมาก ดูเด็กขึ้นกว่าเดิมด้วย พร้อมแสดงความกังวลคิดถึง จะรอเวลาที่เขาออกมาจากกรม

อย่างไรก็ตาม ตามรายงานข่าวสาร จิน จะเข้าประจำการในวันที่ 13 ที่เมือง ยอนชอน, กยองกี โดยจะเข้าฝึกพื้นฐาน 5 อาทิตย์ ก่อนเข้าประจำการ
เขายังได้บอกกับแฟน ๆ ว่า ไม่ต้องการให้แฟน ๆ มาที่ศูนย์ฝึก เพราะเหตุว่าจะมีคนมากมายที่เดินทางมา และอาจทำให้เป็นอันตรายได้

ประวัติ จิน พี่ใหญ่แห่งวง BTS

จิน (Jin) มีชื่อจริงคือ คิม ซอกจิน (Kim Seok-jin)
เกิดเมื่อวันที่ 4 เดือนธันวาคม ปี 1992 เป็นนักร้อง, นักแต่งเพลงชาวประเทศเกาหลีใต้ และได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของวงบอยแบนด์ประเทศเกาหลีใต้โด่งดัง BTS
สังกัดค่าย Big Hit Music (ชื่อเดิม บิกฮิตเอนเตอร์เทนเมนต์) ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2013 ซึ่งเขาเป็นสมาชิกที่มีอายุมากที่สุดในวง

ก่อนที่ จิน จะได้เดบิวต์อย่างเป็นทางการกับวง BTS นั้น ก่อนหน้าที่ผ่านมาเขาได้เข้าร่วมสังกัดค่าย Big Hit Music (ชื่อเดิม บิกฮิตเอนเตอร์เทนเมนต์)
ในฐานะนักแสดงฝึกหัด ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นศิลปินฝึกหัดของค่ายในเวลาต่อมา จากการที่ค่ายเพลงต้นสังกัดมีแผนที่จะเดบิวต์วง hip-hop idol group วงใหม่ และหลังแล้วต่อจากนั้น จิน ก็ได้เดบิวต์อย่างเป็นทางการกับวง BTS ในวันที่ 13 มิถุนายน ปี 2013 ด้วยการปล่อยซิงเกิ้ลอัลบั้มแรกของวงที่มีชื่อว่า “2 Cool 4 Skool”

ผลงานเพลงของ จิน
Charted songs (เพลงที่ติดอันดับบนชาร์ตเพลง)
“Awake” (2016)
“Epiphany” (2018)
“Moon” (2020 )
“The Astronaut” (2022)

Other songs
“Adult Child” (2013)
“Awake” (Christmas ver.) (2016)
“So Far Away” (2017)
“Tonight” (이 밤; I bam) (2019)
“Abyss” (2020)

เรื่องน่าสนใจของ Jin พี่ใหญ่ผู้น่ารักและวิชวลเบอร์หนึ่งแห่งวง BTS

เรื่องน่าสนใจของ Jin จิน (Jin) มีชื่อจริงคือ คิม ซอกจิน (Kim Seok-jin) เกิดเมื่อวันที่ 4 เดือนธันวาคม ปี 1992 เป็นนักร้อง, นักแต่งเพลงชาวประเทศเกาหลีใต้
และได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของวงบอยแบนด์ประเทศเกาหลีใต้โด่งดัง BTS สังกัดค่าย Big Hit Music (ชื่อเดิม บิกฮิตเอนเตอร์เทนเมนต์)
ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2013 ซึ่งเขาเป็นสมาชิกที่มีอายุมากที่สุดในวง

จินเปิดใจเรื่องการแสดง และบอกว่าเขาดีใจที่เลือก BTS

ผู้คนจำนวนมากคงจะรู้อยู่แล้วว่า
จิน เคยใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดงก่อนจะเดบิวต์กับ BTS แต่การตัดสินใจของเขาในครั้งนั้น เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล
ในทางที่ดีขึ้น จิน และ ชูก้า ได้พูดคุยกับในตอนสุดท้ายของรายการ In the SOOP พวกเขาย้อนนึกถึงอดีต และพวกเขาอยากมองเห็นตัวเองเป็นแบบไหนในอนาคต

จิน และ ชูก้าจะทำอะไรอยู่ ถ้าไม่ได้ทำเพลง?
จินเชื่อว่าชูก้าจะประสบความสำเร็จ ส่วนชูก้าคิดว่าเขาเห็นภาพจินในฐานะนักแสดงเช่นกัน
“อาจไม่เป็นอย่างนั้นนะ” จินพูดกับชูก้า

“ชีวิตฉันเปลี่ยนหลังจากเจอพวกนาย ฉันเคยปล่อยชีวิตให้ผ่านไปเรื่อย ๆ นี่แหละที่เขาบอกว่าสิ่งที่อยู่รอบข้างของเรานั้นสำคัญ” – จิน

การได้เห็นสมาชิกในวงทำงานหนัก ทำให้จินอยากทำงานหนักด้วย

“นายทำงานหนักตลอด ฉันเห็นและได้เรียนรู้การทำงานหนักจากพวกนาย” – จิน

จินคิดว่าเขาอาจจะแตกต่างไปจากนี้ ถ้าทำงานเดี่ยวหรือเป็นนักแสดง

“ถ้าฉันเป็นนักแสดง ฉันคงไม่รู้สึกต้องรับผิดชอบอะไร เพราะฉันทำงานคนเดียว อาจจะขี้เกียจก็ได้” – จิน

ชูก้าบอกว่าเขาก็ไม่ได้ทำงานหนักเช่นกัน แต่จินบอกว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่สมาชิกในวงพัก จะมีสมาชิกบางคนที่ยังทำงานอยู่เสมอ การเติบโตด้วยกันของพวกเขาเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาแข็งแรง และเป็นแรงบันดาลใจให้แก่กันและกัน ทำให้แต่ละคนกลายเป็นตัวเองที่ดีกว่าเมื่อวาน

“การได้อยู่ข้างพวกนาย มันทำให้ฉันคิดว่าคนที่อยู่ข้างๆของเราเป็นสิ่งสำคัญมากจริงๆนะ” – จิน

Jin BTS โอนกรรมสิทธิ์เพนต์เฮาส์หรู มูลค่ากว่า 110 ล้านบาท เป็นของขวัญให้พ่อกับแม่

จิน BTS มอบของขวัญให้พ่อแม่ของเขา ด้วยที่อาศัยมูลค่าสูงถึง 4.2 พันล้านวอน (ประมาณ 110 ล้านบาท)
ไอดอลหนุ่มเป็นเจ้าของเพนต์เฮาส์ย่าน Hannam THE HILL จากรายงานของ Biz Korea เผยว่า เมื่อวันที่ 27 เมษายน จิน ได้โอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของเพนต์เฮาส์ 35% ให้กับพ่อและแม่
โดยแบ่งเป็น 17% และ 18% เป็นลำดับ
จินซื้อที่อาศัยขนาด 57 ตารางเมตร (614 ตารางฟุต) แห่งแรกของเขาที่ Hannam THE HILL ในเดือนกรกฎาคม 2561 ด้วยเงิน 1.87 พันล้านวอน (ประมาณ 47 ล้านบาท)
เขาได้ทำการขายในเดือนกรกฎาคม 2562 และซื้อที่อยู่อาศัยที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม อยู่ที่ 233 ตารางเมตร (2,508 ตารางฟุต) ที่ Hannam THE HILL

หลังจากที่ไปออกรายการ นิวเคลียร์ หรรษา ก็ได้เผยว่าตอนนี้มีหนุ่ม ๆ รุ่นน้องที่กำลังคุย ๆ อยู่
ซึ่งอดีตสามี เพชรจ้า วิเชียร และลูกชาย น้องไทก้า ก็ได้เจอแล้ว งานนี้เลยทำให้หลายคนอยากรู้จักว่าหนุ่มคนใหม่ของ นิวเคลียร์ นั้นเป็นใคร
และเมื่อได้เจอเจ้าตัวที่งาน Grand Opening DBS โรงเรียนนานาชาติ DENLA BRITISH SCHOOL (DBS) ก็ไม่พลาดที่จะอัปเดตเรื่องหัวใจของสาวนิวเคลียร์ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ตอบว่า

เสมือนเราเปิดใจมีความรักครั้งใหม่แล้ว?
คือเราก็ไม่ได้ปิด ใครเข้ามาก็ไม่ได้ปิดจริงๆ เหมือนเรายังหวงพื้นที่ข้างๆ เราอยู่ เราเพิ่งจะหย่า เพิ่งจะโสดได้ 2 ปี เพราะฉะนั้นใครที่เข้ามาเราก็ไม่อยากรีบทั้งนั้นแล้วคนที่เข้ามาก็ต้องเข้าใจด้วยว่าเรายังไม่พร้อม เรายังไม่รีบ ถ้าจะคุย คุยได้ ศึกษากันได้ แต่อย่ามาคั้นให้เราต้องรีบคบ

อย่างที่ทุกคนรู้ว่าต่อให้ต่างคนต่างอยู่กันแล้วแต่เราก็ยังอยู่บ้านเดียวกัน มันเป็นปัญหาไหม?
ไม่นะคะ ไม่มีปัญหา อย่างพี่เพชรพาใครมานิวก็ไม่เคย ที่จะห้ามพาเข้ามานะ ไปหึงไม่ได้ มันเป็นสิทธิ์ของเขา แล้วเราก็มีขอบเขตด้วยไม่ใช่คนนั้นเราคุยพามาบ้านเลย ไม่ใช่ ไม่ได้เป็นแบบนั้น

นิวเคลียร์ หรรษา หนุ่มที่ถูกพูดถึงอยู่เป็นใคร?

(ยิ้ม) เป็นรุ่นน้อง ไปอังกฤษด้วยกัน แต่คือไม่ได้ไปกันสองคนมีเพื่อนอยู่ที่นู่นด้วย ก็ไปจอยกันไปเจอกัน

ก็ถูกจับผิดทริปเดียวกันว่าคนนี้แหละน่าสงสัย?
ไม่ใช่ๆ น้องน่ารัก ก็เป็นกลุ่มแก๊งเพื่อนที่ไปดำน้ำด้วยกัน

ไม่ได้มีท่าทีว่าจะมาจีบเราหรือเริ่มมาศึกษา?
เขาจีบเราไหม (ยิ้ม) เขาก็จีบค่ะ (หัวเราะ) เราก็พูดตรงๆ เราก็ไปแล้วว่าใครเข้ามาเราก็คุย เปิดใจ แต่มันยังไม่ใช่ เราก็ยังไม่บอกว่าคบเป็นแฟน วันหนึ่งถ้าเราพร้อมแล้ว เราอยากคบกับคนนี้ เราอยากไปยาวๆ กับเขา เราก็จะบอกใช่

ไปเจอกันได้ยังไง?
ไปดำน้ำด้วยกันนี่แหละค่ะ

เขาเข้าหาเรายังไงบ้าง?
ก็เป็นเพื่อนๆ กันก่อน แล้วก็ไปเรื่อยๆ (หัวเราะ)

แล้วเขามาสารภาพกับเราเหรอว่าต้องการศึกษาเพิ่ม?
(ยิ้ม) เฮ้อ บางทีมันไม่ต้องพูดก็ได้ไง

รู้จักกันมานานหรือยังกับน้องคนนี้?
โห ก็เป็นปีแล้วนะคะ เป็นแก๊งเพื่อน ถ้าดูในสตอรี่เวลาไปกับกลุ่มเพื่อนก็จะมีเขาอยู่ด้วย

น้องไทก้าว่ายังไงบ้าง ได้เจอกันหรือยัง?
มีเจอค่ะ ก้าก็ชอบ เขาเล่นกับเด็กเก่ง (สอบผ่านเรื่องการเข้ากับเด็ก?) ค่ะ แต่ยังไม่ได้เป็นอะไรนะคะ (หัวเราะ)

ตอนนี้คืออยู่ที่เรื่องของสถานะที่เรายังไม่รีบ?
ใช่ ยังไม่รีบค่ะ แล้วเราก็ไม่ได้บอกให้เขามาโฟกัสที่เราคนเดียว จะไปคุยกับใครจะไปมีใครก็เอาเลยนะ พี่เพิ่งโสดเองจ้าน้อง (หัวเราะ)

อายุห่างกันประมาณกี่ปี?
น้องเขา 26 ค่ะ ประมาณ 6-7 ปี (หัวเราะ)

เขาเข้ามาในกลุ่มเพื่อนยังไง?
ก็ไปดำน้ำด้วยกันแล้วเขาเป็นไดฟ์หลีดเรา เป็นเหมือนครูดำน้ำเราอะไรแบบนี้ กับพวกแก๊ง นิวก็ไปกับพวกเนยแจม แก๊งดำน้ำเยอะแยะ

อะไรที่สิ่งที่เรายอมคุยกับเขา นอกจากการเข้ากับเด็กได้?
เขาเป็นคนดี ดีแบบดีมาก เกิดมายังไม่เคยเห็นใครที่สุภาพแล้วก็เป็นคนดีขนาดเขาแล้วทุกคนพูดไม่ใช่แค่เราตอนไปดำน้ำทุกคนบนเรือก็แบบ เฮ้ย แม่งโคตรดีเลยว่ะ ทำไมเขาเทคแคร์ทุกคนดีขนาดนี้ คำหยาบก็ไม่พูด เรียบร้อย ทำการทำงาน ไม่ค่อยเที่ยว ก็คือดีมาก แล้วอยู่นอกวงโคจรเราไปเลยด้วย

มีแนวโน้มจะพัฒนาไหม?
ไม่รู้ค่ะ (ยิ้ม) คุย ๆ ไปก่อนค่ะ (ยิ้ม)

ที่ผ่านมากล่าวว่าชอบผู้ใหญ่?
ตามวัยแหละ (ยิ้ม) พอเราโตขึ้น คนอายุเยอะกว่าเขาก็ไปจีบเด็กๆ แล้วไง (หัวเราะ) ไม่หรอก เด็ก ๆ ก็น่ารัก

เราตั้งสเปกไว้ตั้งแต่แรก ๆ เลยไหม?

ไม่ได้ตั้งสเปกเลย มาเอง แล้วรู้สึกว่าเขาน่ารักดีก็เลยลองเปิดใจลองคุย

อายุก็ไม่ติด?
ไม่ติดค่ะ (ยิ้ม)

สภาพจิตใจเราก็โอเคขึ้นมีเขาเข้ามาทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวย?
ก็ดีค่ะ ดูๆ กันไป (ก็ใช้เวลาไปก่อน?) ใช่ไม่รีบเลยจริงๆ เขาก็บอกเราว่า เฮ้ย ไม่ต้องมาคุยกับเราคนเดียวนะ ยูจะคุยกี่คน ยูศึกษาใคร มันคือชีวิตของยูอะไรแบบนี้ เราก็เออเหมือนกัน อาจจะเป็นเหมือนเพื่อนแต่อาจจะพิเศษกว่าคนอื่นหน่อยนิดนึง แต่ก็ยังอยู่ในเลเวลเพื่อนอยู่ พาดหัวดีๆ นะคะอย่าไปพาดว่าเปิดใจแล้วมีแฟนแล้วไม่ใช่นะคะ (หัวเราะ)

เพื่อน ๆ คนรอบข้างว่ายังยังไงเราคุยกับคนนี้?
ก็เชียร์ ก็จะมีกลุ่มที่เชียร์กับกลุ่มที่อย่าเพิ่งรีบนะ ใช้ชีวิตโสดกับกูก่อน กับเพื่อนที่แบบเขาดีมาก เขานี่แหละเหมาะกับมึง ไม่เคยเจอใครดีขนาดนี้

เราตั้งเป้าไว้ว่าอีกสักพัก 2-3 ปีและหลังจากนั้นก็ค่อยเริ่มต้นใหม่?
ตอนแรกก็ตั้งเป้าไว้เหมือนกัน หลังเลิกกับพี่เพชร ให้เวลาอยู่กับตัวเองประมาณ 5 ปี นานไปปะ แต่นี่ก็ 2 ปีแล้วนะ ก็มันไม่อยากมีความสัมพันธ์ มันเหนื่อย (หรือเรากลัวด้วย?) กลัวด้วยแหละ เอาจริงๆ นิวไม่เคยโสดมา 13 ปีแล้ว

เสมือนมันกลัวความผิดหวังในเรื่องความรัก เลยไม่อยากรีบเปิด?
ใช่ ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ใจเย็น พ่อแม่ก็บอกว่างั้นใจเย็นๆ ก่อนนะ

น้องไทก้ารู้ชัดเจนหรือยังว่าหนุ่มคนนี้คุยกับแม่?
เขาก็เป็นเพื่อน เป็นลุงคนหนึ่งของไทก้า

ก็มีเวลาได้เจอกัน?
เจอค่ะ เจอได้ พี่เพชรก็เจอค่ะ

เพชรจ้าว่ายังไงบ้าง?
ก็บอกน้องเขาน่ารักดี เป็นคนดีมากๆ เลย อะไรแบบนี้

สรุปอีกทีหนึ่งว่าเป็นอะไรกัน?
เป็นเพื่อน ที่คุย ๆ (แล้วชอบไหม?) น้องน่ารัก ๆ (ยิ้ม)

ฮันโซฮี เธอปรากฏตัวในกรุงลอนดอนพร้อมสถานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Charlotte Tillsbury
พร้อมยืนถ่ายรูปประกบเจ้าของแบรนด์อยู่เป็นประจำ

หลังจากสร้างปรากฏการณ์ “โซฮีฟีเวอร์” ในช่วงที่มาร่วมงานแบรนด์ Omega ณ ประเทศไทย

ต้องกล่าวว่าฮันโซฮีได้รับความสนใจจากแฟน ๆ ทั้งยังไทยและต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ
เอาเข้าจริงเธอได้รับการจับตามองตั้งแต่โลดแล่น ณ ปารีสแฟชั่นวีกแล้วด้วย สม่ำเสมอมาจนกระทั่งช่วงปลายปีเรียกว่าเธอคือซูเปอร์สตาร์จากแดนกิมจิ
ที่มีแฟนคลับรอติดตามผลงานมากที่สุดคนหนึ่งในช่วงปลายปี และการที่เธอบินลัดฟ้าไปงานประกาศรางวัล British Fashion Awards 2022
ก็สร้างโมเมนต์แฟชั่นพรมแดงที่สะกดตาทุกคนอีกที

เธอบินออกจากสนามบินอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2022 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะปรากฏตัว ณ กรุงลอนดอน
กับงานประกาศรางวัลสุดยิ่งใหญ่ในโลกแฟชั่นในวันที่ 6 ธันวาคม 2022 โดยนักแสดงสาววัย 28 ปี เฉิดฉายบนพรมแดงด้วยลุคเดรสเกาะอกจับระบายสีเขียว
มาพร้อมแอ็กเซสเซอรี่ทั้งยังนาฬิกาและตุ้มหู ลุคโดยรวมอาจไม่ได้หวือหวาเวอร์วังมากนัก
แต่เมื่อกลิ่นอายความมีเสน่ห์ผสมผสานกับความเรียบง่ายและการเลือกสีที่ตัดกับพรมแดงได้พอดิบพอดีทำให้ฮันโซฮีกลายเป็นตัวเด่นที่สื่อแฟชั่นและบันเทิงทั่วโลกไม่พูดไม่ได้

การปรากฏตัวในกรุงลอนดอนครั้งนี้ ฮันโซฮี

มาในฐานะแอมบาสเดอร์ของแบรนด์บิวตี้อย่าง Charlotte Tillsbury โดยเหตุนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่อาจเห็นเธอในลุคพรมแดงที่เรียบโก้ และเน้นความโดดเด่นไปในเรื่องของความสวยงามของเมกอัพ
ซึ่งสิ่งที่แฟน ๆ ฮันโซฮีปลาบปลื้มใจอย่างมากคือการได้เห็นเธอโลดแล่นอยู่บนพรมแดงงานสำคัญระดับโลก พร้อมทั้งถ่ายรูปร่วมกับเหล่าเซเลบริตี้ดังจากทั่วโลก
มากไปกว่านั้นเธอยังเป็นสาวสวยที่ยืนถ่ายรูปในตำแหน่งร่วมกับเจ้าของแบรนด์อยู่เสมอด้วย ถือว่าเป็นโมเมนต์สำคัญที่ทำให้ทุกคนมีความเห็นว่าเธอได้รับความสนใจจากเจ้าของแบรนด์และก้าวขึ้นมาเป็นตัวเด่นบนพรมแดงครั้งนี้อย่างแท้จริง

ส่อง 5 ผลงาน ฮันโซฮี ( Han So-Hee ) ออนนี่ซุปตาร์สาวสวยแห่งเกาหลีที่ไม่ควรพลาด

1.) 100 Days My Prince รัก 100 วันของฉันและองค์ชาย (2018)
มาเริ่มกันที่การแสดงเรื่องแรกกันเลย นั่นก็คือการแสดงซีรีส์แนวย้อนยุคที่สนุกมาก ๆ ในเรื่อง “100 Days My Prince รัก 100 วันของฉันและองค์ชาย” นั่นเอง
โดยในเรื่องนี้สาวฮันโซฮีได้แสดงเป็น “พระชายาคิมโซฮเย” เป็นลูกสาวของเสนาบดีฝ่ายซ้าย ที่คุณได้แอบตั้งท้องกับลูกน้องของพ่อของเธอ!? เป็นคาแรคเตอร์ที่ดูเป็นคนเก็บกด
โดยบังคับอยู่ตลอด ซึ่งดูไปต้องแอบสงสารไป ซึ่งสาวฮันโซฮีก็แสดงออกมาได้ดีมาก ตีบทแบบแตกเป็นแตก! ทำให้คนที่ได้รับดูรู้สึกร่วมไปกับการแสดงนี้ อินมากแสดงอินเนอร์ออกมาได้แบบถึงใจมาก
รวมถึงเราถูกใจลุคและแฟชั่นในเรื่องของฮันโซฮีมาก ๆ ดูหวานสง่าทุกลุคเลยละ เป็นอีกหนึ่งจุดที่ดูแล้วเพลินตามากแม่ โดยในเรื่อง 100 Days My Prince รัก 100 วันของฉันและองค์ชายก็ถือว่าเป็นการแสดงแนวย้อนยุคครั้งแรกของสาวฮันโซฮีเธอเลยละค่ะ แต่บอกเลยว่ายอดเยี่ยมมาก ๆ เต็ม 10 ไม่หัก แถมให้เพิ่มไปเล้ย อวยขนาดนี้แล้วต้องตามไปดูกันแล้ว

2.) The World of the Married หลังภาพแห่งความสุข (2020)
ตามมาต่อกับผลงานเรื่องที่สองของสาวฮันโซฮี ต้องบอกเลยว่าเป็นซีรีส์ที่แซ่บเผ็ด 10 เม็ดไปเลย! นั่นเป็นซีรีส์เรื่อง “The World of the Married หลังภาพแห่งความสุข”
ซีรีส์ที่ในช่วงเวลานั้นกระแสแรงพูดถึงกันทั่วบ้านทั่วเมืองนั่นเองละค่ะ โดยสาวฮันโซฮีรับบทเป็น “ยอดาคยอ”
เป็นบทบาทของภรรยาน้อยของอีแทโอ มีคาแรคเตอร์ภายนอกดูหวาน ๆ เงียบเรียบร้อย แต่ภายในนี่บอกเลยว่าร้ายไม่ใช่ย่อย แสดงออกมาได้สุด ฉากดราม่า ฉากร้าย ฉากเลิฟซีน
บอกเลยว่าอินเนอร์อินใจใส่มาแบบไม่ยั้ง! นับว่าในบทบาทของยอดาคยอในซีรีส์เรื่อง The World of the Married หลังภาพแห่งความสุข เป็นหนึ่งบทบาทที่ค่อนข้างจะท้าทายมาก เป็นตัวละครที่มีแง่คิดมีมิติให้คนดูได้คิดตาม แต่สาวฮันโซฮีก็ตีบทนี้กระทั่งแตกกระจุยไปเลย 10/10 ไม่หัก!

3.) Nevertheless รักนี้ห้ามไม่ได้ (2021)
ตามมาด้วยการแสดงเรื่องต่อมา ที่ต้องบอกเลยว่าฟินจิกจิกหมอนและเป็นกระแสโด่งดังทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างซีรีส์แนวรักโรแมนติกสุดฟิน
เรื่อง “Nevertheless รักนี้ห้ามไม่ได้” ที่เธอแสดงคู่กับชายหนุ่มซงคัง นั่นเองค่า~ โดยในเรื่องนี้สาวฮันโซฮีแสดงเป็น “ยูนาบี” เธอเป็นสาวสวยนักศึกษาศิลปกรรม
โดยเธอต้องการออกเดตแต่เธอนั้นอดีตไม่ค่อยจะดีเกี่ยวกับความรัก เป็นคนที่จริงจังกับทุก ๆ เรื่อง ซึ่งบอกเลยว่าในบทบาทของยูนาบีที่สาวฮันโซฮีแสดงนั้นคือดีต่อใจมาก ๆ เธอแสดงออกมาได้ดีมาก
มีความชัดเจน คาแรคเตอร์คือชัดมาก ไม่ว่าฉากไหนซีนใดคือปังมาก โดยเฉพาะฉากเลิฟซีนคู่กับหนุ่มซงคังคือต้องบอกเลยว่างื้อออโคตรฟิน!
เป็นการแสดงอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้สาวฮันโซฮีดังเป็นพลุแตกไปเล้ย!

4.) My Name (2021)
ตามมากับผลงานต่อมาของสาวฮันโซฮีนั่นก็คือซีรีส์เรื่อง “My Name” ทาง Netflix
ซึ่งเป็นแนวอาชญากรรม ดราม่าแอคชั่นที่บอกเลยว่าโด่งดังและกระแสดีมาก ๆ โดยในซีรีส์เรื่อง My Name สาวฮันโซฮี แสดงเป็น “ยุนจีอู หรือ โอฮเยจิน”
เป็นคาแรคเตอร์ของตำรวจสาวสวยแผนกอาชญากรรม ที่มีนิสัยถึก ทน ลุย! เป็นคนที่เงียบ ๆ เดาใจหรือสิ่งที่เธอคิดไม่ค่อยได้ ซึ่งแน่นอนว่าระดับสาวฮันโซฮีนั้นก็แสดงออกมาได้แบบดีมากกกก
คาแรคเตอร์มีความชัดเจน อินเนอร์ออกมาทางสีหน้าท่าทาง แววตาได้แบบดุเด็ดเผ็ดมัน แถมในฉากต่อสู้แอคชั่น Movement คือโคตรสุด
และในเรื่องนี้ฮันโซฮีเธอก็มาในลุคผมสั้นสวยเปรี้ยวแซ่บมาก คือดีคือปัง ใครต้องการเห็นฮันโซฮีแสดงแนวแอคชั่นห้ามพลาดเด็ดขาดเลยนะ

5.) Soundtrack #1 (2022)
เดินทางมาถึงการแสดงเรื่องสุดท้าย ท้ายสุดของสาวสวยฮันโซฮีของเรากัน นั่นก็คือซีรีส์แนวแอบรักโรแมนติกสุดฟินอย่าง “Soundtrack #1”
มี Mood & Tone และพล็อตเรื่องที่ดีงามมาก ๆ โดยในซีรีส์เรื่อง Soundtrack #1 ฮันโซฮีรับบทเป็น “อีอึนซู”
ซึ่งเป็นสาวสวยนักแต่งเพลง ที่มีคาแรคเตอร์ที่เป็นคนเก่งอารมณ์ดี ร่าเริง ชอบดูแลเทคแคร์ รวมถึงเป็นคนที่เอาจริงเอาจังกับชีวิตและเรื่องราวของความมาก ๆ
ซึ่งสาวฮันโซฮีแสดงบทบาทนี้ออกมาได้ดี คาแรคเตอร์มีความฟิตติ้งกับบทบาท มีความธรรมชาติ ทำให้คนที่ได้ดู คิดว่าเธอเป็นตัวของอีอึนซูแบบจริง ๆ อินมากแม่!
และอะไรก็แล้วแต่ก็คือสาวฮันโซฮีในบทบาทของอีอึนซูมีลุคและแฟชั่นที่สวยหวานเข้ากับเธอมาก ๆ เลย

ก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ ส่อง 5 ผลงานสุดปังของ ฮันโซฮี ที่ไม่ควรพลาด
ต้องบอกเลยว่าสาวฮันโซฮีคนนี้นั้น เป็นอีกหนึ่งซุปตาร์นักแสดงมือโปรที่ไม่ว่าเธอจะรับบทไหน แสดงซีนใดก็คือปั๊วะมาก
แสดงออกมาได้ดีกระทั่งน่าประทับใจและขออวยให้เธอแบบแรง ๆ ทั้งยังเป็นสาวสวยมากเสน่ห์ที่มีคาแรคเตอร์ที่น่ารักน่าสนใจไม่ไหว!

เป็นปีสุดยุ่งของ ITZY ที่ปล่อยเพลงใหม่ ๆ มาให้พวกเราฟังกันอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี
คัมแบ็คปัจจุบันตอนวันที่ 30 เดือนพฤศจิกายน กับเพลงใหม่ “Cheshire” ที่มาพร้อมมินิอัลบั้มชุดที่ 6 ชื่อเดียวกับเพลงไตเติล CHESHIRE

“Cheshire” มาพร้อมท่อนจำอย่าง “Hey, why so serious?” เป็นเพลงแนวป็อปแดนซ์ที่มาพร้อมข้อความที่

ต้องการย้ำเตือนให้เชื่อในความรู้สึกที่มีให้แม้ว่าจะพบกับคำถามมากมายที่ชวนทำให้รู้สึกสับสนหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดความรู้สึกหนักใจก็ตาม

ที่ผ่านมา ITZY ปล่อยเพลงภาษาญี่ปุ่น “Voltage”
ในเดือนเมษายน ก่อนที่จะปล่อยมินิอัลบั้ม Checkmate พร้อมเพลงไตเติล “Sneakers” ในก.ค.ที่ผ่านมา
รวมทั้งกลับมาปล่อยเพลงภาษาญี่ปุ่น “Blah Blah Blah” รวมทั้งเพลงภาษาอังกฤษ “Boys Like You” ในต.ค.
ก่อนที่จะกลับมาคัมแบ็คอย่างเป็นทางการด้วย “Cheshire” ในพ.ย. กล่าวได้ว่าแฟน ๆ ชาว MIDZY ได้ฟังเพลงใหม่ ๆ ของ ITZY ตลอดทั้งปีเลยทีเดียว

ไม่ใช่แค่นั้น ITZY ยังเตรียมเดินสายเวิลด์ทัวร์แสดงคอนเสิร์ตในหลาย ๆ ประเทศ

รวมทั้งประเทศไทยด้วย MIDZY ชาวไทยพบตัวจริงของทั้งยัง 5 สาวได้ใน
ITZY THE FIRST WORLD TOUR BANGKOK ในวันเสาร์ที่ 8 เดือนเมษายน 2566 ที่ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี
ซื้อบัตรได้ที่ Thaiticketmajor

อิดจี เตรียมบิดลัดฟ้ามาแสดงคอนเสิร์ตที่ไทย 8 เม.ย. 2566

ปังให้สุด แล้วหยุดที่เวิลด์ทัวร์แรก อิดจี ห้าสาวมหัศจรรย์แห่งค่าย JYP ประกาศเวิลด์ทัวร์เพิ่มในโซนอาเซียน
เริ่มต้นปี 2566 กับ ITZY THE FIRST WORLD TOUR MIDZY ไทย จัดแจงพบได้ 8 เดือนเมษายนปีหน้า
อัลบั้ม CHECKMATE ของ 5 สาว Yeji, Lia, Ryujin, Chaeryeong รวมทั้ง Yuna เปิดตัวแรงด้วยการคว้าอันดับ 8 บนชาร์ต Billboard 200
ความนิยมชมชอบดังที่กล่าวมาข้างต้น ราวกับเป็นใบเบิกทางให้ ๆ สาวเริ่มต้นคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ครั้งแรกภายใต้ชื่อเดียวกันกับอัลบั้มอย่าง CHECKMATE

ITZY THE FIRST WORLD TOUR เริ่มต้นอย่างสวยงามในประเทศบ้านเกิดอย่างเกาหลีใต้

ช่วงนี้อยู่ระหว่างทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
นอกเหนือจากการที่จะใช้เวลาไปกับการทัวร์คอนเสิร์ตแล้ว อิดจี ก็ยังคัมแบ็คด้วยอัลบั้มใหม่ CHESHIRE
ที่จะปล่อยให้แฟน ๆ ได้ฟังกันในวันที่ 30 เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
โดยใช้เพลง ‘Boys Like You’ เพลงภาษาอังกฤษเพลงแรกของ อิดจี เป็นซิงเกิลเปิดตัวอัลบั้ม

สิ้นสุดการรอคอยสำหรับ MIDZY คนไทย เตรียมพบกับ ITZY THE FIRST WORLD TOUR
ในวันเสาร์ที่ 8 เดือนเมษายน 2566 ที่ธันเดอร์โดมเมืองทองธานี สมาชิกไลฟ์เนชั่น รับสิทธิ์ซื้อบัตรรอบพรีเซลล์ ในวันเสาร์ที่ 12 เดือนพฤศจิกายน (10.00 – 22.00 น.)
สมัครสมาชิกรวมทั้งซื้อบัตรได้ทาง livenation.co.th จำหน่ายบัตรรอบทั่วไปวันอาทิตย์ที่ 13 เดือนพฤศจิกายน 10.00 น.เป็นต้นไป ทาง thaiticketmajor.com รวมทั้งไทยทิกเก็ตเมเจอร์ 11 สาขาหลัก

สมาชิกวง ITZY มีใครบ้าง

 

1. เยจี
เยจี (Yeji) ชื่อจริงคือ ฮวังเยจี (Hwang Ye Ji) และชื่อภาษาอังกฤษ Lucy Hwang เกิดเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2000 ที่เมืองจอนจู ประเทศเกาหลีใต้ เธอเข้ามาเป็นเด็กฝึกตั้งแต่ปี 2016 รวมระยะเวลาในการฝึก 3 ปี ก่อนจะได้เดบิวต์และรับหน้าที่เป็นลีดเดอร์, นักเต้นหลัก, นักร้องนำ และแรปเปอร์ของวง
ผลงาน เยจี : เคยเป็นนักแสดงรับเชิญในรายการ Twenty Again ตอน 8 และเคยปรากฏตัวในรายการเรียลลิตี้โชว์ Stray Kids ของ Mnet ตอน 1 รวมถึงในการเข้าร่วมรายการ The Fan ของเธอ จุนโฮ (Junho) วง 2PM เรียกเธอว่า “อาวุธลับของ JYP (JYP’s Hidden Weapon)”

2. ลีอา
ลีอา (Lia) ชื่อจริงคือ ชเวจีซู (Choi Ji Su) และชื่อภาษาอังกฤษ Julia Choi เกิดเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2000 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เป็นเด็กฝึกหัดของค่าย JYP ที่ได้เดบิวต์เร็วที่สุด โดยรับหน้าที่เป็นนักร้องหลักและแรปเปอร์เสริมของวง นอกจากนี้ลีอาเคยเรียนที่โรงเรียนนานาชาติ รวมถึงเคยอาศัยอยู่ที่ประเทศแคนาดา ทำให้เธอสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว

3. รยูจิน
รยูจิน (Ryujin) ชื่อจริงคือ ชินรยูจิน (Shin Ryu Jin) และชื่อภาษาอังกฤษคือ Joanne Shin เกิดเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2001 ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในระหว่างการแข่งขันรายการ Mix Nine ประธาน Yang Hyun Suk ได้ชักชวนให้รยูจินไปเป็นเด็กฝึกในค่าย YG Ent. แต่เธอเลือกที่จะอยู่ที่ค่าย JYP Ent. และฝึกฝนทักษะต่าง ๆ เป็นเวลา 4 ปี ก่อนจะได้เดบิวต์และรับหน้าที่เป็นแรปเปอร์หลัก, นักเต้นนำ, นักร้องเสริม และเซ็นเตอร์ของวง
ผลงาน รยูจิน : เคยแสดงในภาพยนตร์เรื่อง The King (2017) และเคยปรากฏตัวในรายการเรียลลิตี้โชว์ Stray Kids ของ Mnet ตอน 1

4. แชรยอง
แชรยอง (Chaeryeong) ชื่อจริงคือ อีแชรยอง (Lee Chae Ryeong) และชื่อภาษาอังกฤษคือ Judy Lee เกิดเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2001 ที่เมืองยงอิน ประเทศเกาหลีใต้ เธอเป็นน้องสาวของ แชยอน (Chaeyeon) สมาชิกวง IZ*ONE และมีน้องสาวอีก 1 คน โดยทั้งแชรยองและพี่สาวเคยเข้าออดิชั่นรายการ Fantagio ในปี 2012 แต่ไม่ผ่านการคัดเลือก จนกระทั่งเธอได้เข้ามาเป็นเด็กฝึกในค่ายตั้งแต่ปี 2014 รวมระยะเวลาการฝึก 5 ปี ก่อนจะได้เดบิวต์และรับหน้าที่เป็นนักเต้นหลัก, นักร้องเสริม และแรปเปอร์เสริมของวง

5. ยูนา
ยูนา (Yuna) ชื่อจริงคือ ชินยูนา (Shin Yu Na) และชื่อภาษาอังกฤษคือ Hussey Shin เกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2003 ที่เมืองซูวอน ประเทศเกาหลีใต้ สมัยเรียนเธอเคยเป็นนักกีฬาฟลอร์บอล (Floorball) เป็นเวลา 4 ปี ก่อนที่จะมีแมวมองมาชักชวนให้ไปออดิชั่นและได้เข้ามาเป็นเด็กฝึกในค่ายอีก 3 ปี จนได้เดบิวต์และรับหน้าที่เป็นแรปเปอร์นำ, นักเต้นนำ, นักร้องเสริม, ภาพลักษณ์ของวง และน้องเล็กของวง

คริสต์มาสแห่งความสุข จะกลายเป็นคืนชำระแค้น ของเขา เมอร์รี่ “แค้น” มาส ห้ามพลาด
29 เดือนธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ ส่งท้ายปี 2565 กับผลงานระที่กขวัญแฟน ๆ ทุกคนต่างคอยกับ “Christmas Carol” ภาพยนตร์
ระทึกขวัญโปรเจกต์ยักษ์ปิดท้ายปี ที่จะมอบนิยามใหม่ ให้วันคริสต์มาส โดยได้ “พัค จินยอง” ศิลปิน
ระดับแถวหน้าของทวีปเอเชีย จากวง GOT7 แล้วก็นักแสดงมากความสามารถที่เคยฝากผลงานเลื่องลือมา
แล้วจากซีรีส์ He is Psychometric แล้วก็ Yumi’s Cells 2 มา นำแสดงในบทบาท แฝดที่ต้องกลับ
มาทวงแค้น ซึ่งนับว่าเป็นผลงานที่ท้าที่สุดในชีวิตของ จินยอง GOT7

ล่าสุดภาพยนตร์ได้ปล่อย “ตัวอย่างซับไทย” ออกมาพร้อมคอนเฟิร์มวันเข้าฉายให้แฟน ๆ คนไทยจัดแจง ปักหมุดรอคอยชมได้แน่ ๆ 29 เดือนธันวาคมนี้ในโรงภาพยนตร์

Christmas Carol เป็นภาพยนตร์ที่ดแปลงมาจากนิยายขายดีของประเทศเกาหลีใต้

ในชื่อเรื่องเดียวกันแล้วก็ถูกนำมาสร้าง เป็นภาพยนตร์ แอ็กชัน-ทริลเลอร์ จากผู้กำกับฝืมือฉกาจ อย่าง “คิมซองซุ” ที่เคย
สร้างผลงานระทึกขวัญไว้จาก Running Wild แล้วก็ซีรีส์ดราม่า Save Me โดยภาพยนตร์เรื่องนี้บอก
เล่าราวโศกนาฎกรรมสุดระที่ก การทวงแค้นของแฝดคนพี่ ที่ต้องยอมถูกจับ เข้าสถานที่
ตัดสันดานเยาวชนเพื่อสีบหาต้นสายปลายเหตุการตายของน้อง ภายหลังจากเจอศพชายผู้พิการทางสติปัญญาใน
แทงก์น้ำร่างกายเต็มไปด้วยร่องรอยแต่ว่าเจ้าหน้าที่กลับแจ้งว่าเป็นอุบัติเหตุ คู่แฝดพี่ก็เลยต้องเดินหน้าสืบหา แล้วก็ชำระแค้นคนที่อยู่เบื้องหลังให้สาสม

นอกจากได้ “พัคจินยอง” จาก G0t7 มานำแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วยังได้นักแสดงมีชื่อเสียงที่มา
ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวการทวงแค้นสุดเข้มข้นอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น “คิมยองมิน” (Crash Landing
On You) , “คิมดงฮวี” (In Our Prime), “ซงกอนฮี” (Snowdrop) แล้วก็ “ฮอดงวอน”(Extraordinary Attorney Woo)
ห้ามพลาด! เมอร์รี่ “แค้น” มาส กับ Christmas Carol 29 เดือนธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

ต้นสังกัด ‘ จินยอง GOT7 ’ ชี้แจงถึงรายงานข่าวสารเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมเข้ากรมรับใช้ชาติ

BH Entertainment สังกัดของ ศิลปิน-นักแสดงหนุ่ม พัคจินยอง หรือ จินยอง GOT7
ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับรายงานข่าวสารผ่านสื่อที่เปิดเผยถึงกระแสข่าวลือการเตรียมเข้ากรมรับใช้ชาติของเขา

ในวันที่ 25 พ.ย. รายงานจากสำนักข่าวระบุว่า พัคจินยอง
จะเข้ากรมรับใช้ชาติกลางเดือนมีนาคมในปี 2023

โดย BH Entertainment ได้ออกมาชี้แจงภายในวันเดียวกัน ว่า “วันเข้ากรมรับใช้ชาติที่แน่นอนของ พัคจินยอง
ยังไม่ได้รับการกำหนดวันออกมา แต่เขาจะ มุ่งมั่นตั้งใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ รับใช้ชาติ”

ก่อนการเข้ากรมรับใช้ชาติที่จะมาถึงในไม่ช้านี้ พัคจินยอง ได้มีผลงานแล้วก็กิจกรรมให้ได้ติดตามอย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็น ผลงานภาพยนตร์ ‘Christmas Carol’ ที่เขาท้าความสามารถการแสดงด้วยการแสดง 2 บทบาทในเรื่องเดียว
แล้วก็ขณะนี้กำลังโฟกัสกับการถ่ายทำซีรีส์รีเมคเว็บตูน ‘The Witch’

นอกจากนั้น ยังเป็นที่เข้าใจดีว่า
จินยอง ได้ใช้เวลาเตรียมผลงานโซโลอัลบั้ม แล้วก็เตรียมตัวสำหรับงานแฟนมีตติ้งในขณะเดียวกัน ถึงแม้ว่าตารางงานของเขาจะยุ่งมากก็ตาม

ประวัติความเป็นมา จินยอง นักร้องแล้วก็นักแสดงหนุ่ม สมาชิกวงบอยแบนด์ดัง GOT7

พัค จินยอง (Park Jin Young) หรือที่แฟน ๆ รู้จักกันดีคือ จินยอง (Jinyoung)
เกิดช่วงวันที่ 22 เดือนกันยายน ปี 1994 เป็นนักร้อง, นักแสดง แล้วก็นักแต่งเพลงชาวประเทศเกาหลีใต้
ทั้งยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของ GOT7 วงบอยแบนด์มีชื่อเสียงของประเทศเกาหลีใต้ แล้วก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของ JJ Project

จินยอง อยากที่จะเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก
โดยเขาเริ่มเรียนรู้ในด้านการเต้น แต่ถ้าว่าในตอน 3 เดือนแรกเขาไม่ค่อยจริงจังสักเท่าไหร่นัก จนคุณพ่อของ จินยอง
ได้กล่าวตักเตือนใจเขาจนภายหลังจากฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลา 3 เดือนเขาก็สามารถเต้นได้ดีขึ้น จนในปี 2009 จินยอง ก็ได้ผ่านการออดิชั่นของค่าย JYP Entertainment

ถัดมา จินยอง ได้เริ่มงานด้านการแสดงครั้งแรกในละครเรื่อง Dream High 2 หลังจากนั้น
ในเดือนพฤษภาคมปี 2012 ทาง จินยอง แล้วก็ เจบี
ได้เดบิวต์ในฐานะศิลปินดูโอ้ JJ Project พร้อมกับปล่อยซิงเกิ้ลอัลบั้มแรก “JJ Project Slot Machine” แล้วก็ในวันที่ 16 ม.ค. ปี 2014
ค่าย JYP Entertainment ได้เปิดตัววงบอยแบนด์ 7 คนที่ชื่อว่า GOT7 โดยมี จินยอง เป็นหนึ่งในสมาชิกของวง

GOT7 ได้ปล่อยผลงานเพลงออกมาเยอะแยะ จนในปี 2021 มีรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศระบุว่า สมาชิกของวง GOT7 ทุกคนจะออกจากค่าย JYP Entertainment
โดยงาน Golden Disc Awards ครั้งที่ 35 เป็นกิจกรรมสุดท้ายของวง หลังจากนั้นในวันที่ 11 ม.ค. ปี 2021 ทางค่าย JYP Entertainment ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าสมาชิกทั้งหมดของ GOT7 จะออกจากค่ายต้นสังกัด เพราะสัญญาของพวกเขาจะหมดลงในวันที่ 19 ม.ค. ปี 2021

ผลงานเพลงOSTs ของ จินยอง
– “Dream High 2 OST” (“We Are the B”) (2012)
– “Top Management OST” (“Hold Me”) (2018)

ภายหลังจากประเด็นร้อนที่สำนักข่าวประเทศเกาหลีเจ้าใหญ่อย่าง Dispatch ออกมาเปิดเผยว่า
อีซึงกิ (Lee Seung Gi) นักร้อง นักแสดง รวมทั้งพิธีกรมีชื่อ ไม่ได้รับเงินอะไรก็ตามจากการทำเพลงตลอด 18 ปี
ให้กับสังกัด Hook Entertainment ชาวเน็ตเริ่มรื้อฟื้นถึงอุปสรรคต่อการทำงานของค่ายนี้ รวมทั้งติชมถึงความโปร่งใส
สำหรับในการบริหารงาน หลังจากถูกตำรวจสอบปากคำข้อหายักยอกรวมทั้งฉ้อโกง
รวมทั้งความประพฤติของซีอีโอของบริษัทที่เข้าข่าย “gaslighting” หรือการเอารัดเอาเปรียบอีกฝ่ายด้วยคำพูดรวมทั้งการกระทำ
ที่ด้อยค่าอีกฝ่าย หรือหลอกลวงอีกฝ่าย โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกเอารัดเอาเปรียบ

พัคมินยอง (Park Min Young) ดาราสาวในสังกัด Hook Entertainment มีข่าวสารว่า

เคยคบหาดูใจกับนักธุรกิจเศรษฐีชื่อ “คัง” นอกเหนือจากคุณคังจะเป็นเจ้าของบริษัท Vidente ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในบริษัท Bithumb Holdings แล้ว
คุณคังยังมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับบริษัท Chorokbaem Media ที่เข้าซื้อกิจการของบริษัท Hook Entertainment
ที่เป็นต้นสังกัดของพัคมินยองอีกด้วย

ตอนวันที่ 10 พ.ย. ก่อนหน้านี้ สำนักข่าว SBS รายงานว่า
ตำรวจบุกเข้าออฟฟิศของ Hook Entertainment เพื่อหาหลักฐานเพิ่มสำหรับในการสืบสวนคดี
ยักยอกทรัพย์ของบริษัท รวมทั้งมีแนวโน้มว่า การยักยอกทรัพย์ของบริษัทจะมีความเชื่อมโยงกันกับคุณคัง แฟนเก่าของสาวพัคมินยองด้วย

ทางด้านของ อีซึงกิ สำนักข่าว Dispatch รายงานว่า

เขาจัดแจงทนายความเพื่อเรียกหาหลักฐานสำหรับในการบริหารงานรวมทั้งรายได้จากการทำงานของเขาอย่างโปร่งใส
เมื่อเขาทราบว่าเขาไม่ได้รายได้ที่น่าจะได้รับจากการทำงานเพลงตลอดเวลา 18 ปี นอกเหนือจากนั้นเขายังถูกใช้คำพูด
รวมทั้งอารมณ์ร้ายแรงจากซีอีโอของบริษัท รวมทั้งพฤติกรรมอยู่ในข่าย gaslighting จากบริษัทที่มักพูดว่าเขาเป็น “minus singer” หมายถึง
เป็นนักร้องที่ไม่ทำเงิน ไม่ได้กำไรให้กับบริษัท ทำให้บริษัทขาดทุน โดยบริษัทมักบอกเขาว่า เพลงของเขาขายไม่ได้ ไม่สร้างรายได้หรือกำไรให้กับบริษัทนั่นเอง

วันที่ 17 พ.ย. ยุนยอจอง (Youn Yuh Jung) ดาราสาวฉายา Meryl Streep ประเทศเกาหลี

ที่เคยครอบครองรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Minari มีข่าวลือว่า
คุณจัดแจงออกจาก Hook Entertainment แต่ว่าภายหลังจากข่าวสารออกไปไม่นาน ด้านในวันเดียวกัน Hook ก็รีบชี้แจงเพื่อยืนยัน
ในทันทีว่า สัญญากับยุนยอจองยังไม่หมด รวมทั้งข่าวลือที่ว่า ยุนยอจองจะออกจากบริษัทนั้น ไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด

อย่างไรก็แล้วแต่ ชาวเน็ตเสนอประเด็นพฤติกรรม gaslighting ที่ยุนยอจองบางทีอาจเคยเผชิญโดยไม่รู้ตัวจากบริษัทเหมือนที่อีซึงกิเคยโดน
จากคลิปสัมภาษณ์รายการวาไรตี้ของช่อง SBS ในประเด็นที่ว่า เธอไม่รับงานพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์หรูต่าง ๆ โดยเธอกล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าฉันไม่รับงานพรีเซนเตอร์ แต่เขา (แบรนด์) ไม่ได้ยื่นข้อเสนอให้ฉันเอง เพราะถ้าคนแก่มาใส่เสื้อผ้าเขา คนคงบอกว่า ‘ฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้นสักหน่อย’ แล้วก็ไม่ยอมซื้อของเขาน่ะสิ ฉันก็เลยซื้อเสื้อผ้าใส่เองทุกชิ้น”

โดยชาวเน็ตบอกว่า ประโยคนี้ของเธอเหลือเชื่อมาก ๆ ด้วยเหตุว่าชื่อเสียงของเธอเลื่องลือมาก ๆ
จนถึงผู้คนจำนวนมากเทียบว่าเธอคือ Meryl Streep ประเทศเกาหลี
ได้รับรางวัลออสการ์ รวมทั้งยังมีชื่อเสียงรวมทั้งได้รับความนิยมจากชาวประเทศเกาหลีอย่างมากจาก Unexpected Journey รายการทีวีที่เธอดำเนินรายการเอง ทำให้ชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันว่า เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่ได้รับข้อเสนอให้เป็นพรีเซนเตอร์จากแบรนด์ใด ๆ เลย
รวมทั้งบริษัทบางทีอาจกำลังเอารัดเอาเปรียบเธออยู่โดยที่เธอไม่รู้ตัว

ระหว่างนี้ Hook Entertainment ไม่มีคำแถลงการณ์เกี่ยวกับประเด็นถูกต้องสงสัยว่า
ยักยอกทรัพย์ เรื่องรายได้จากงานเพลงของอีซึงกิ รวมทั้งพฤติกรรม gaslighting ต่อดาราในสังกัดที่ชาวเน็ตกำลังพูดถึงแต่อย่างใด

Hook Entertainment มีนักแสดง นักแสดง รวมทั้งเอนเตอร์เทนเนอร์ในสังกัดเยอะมาก อาทิ อีซุนฮี (ฉายานักร้องแห่งชาติเกาหลี) อีซึงกิ พัคมินยอง ซอบอมจุน อีซอจิน ยุนยอจอง รวมทั้ง ชเวกยูริ

“อีซึงกิ” จัดแจงฟ้องค่าย หลังจากไม่เคยได้เงินจากค่าทำเพลงตลอด 18 ปี

อีซึงกิ (Lee Seung Gi) นักร้อง-นักแสดงมีชื่อของเกาหลีใต้ จัดแจงส่งทนายความฟ้องสังกัด Hook Entertainment
หลังจากเรียกร้องหาหลักฐานแสดงรายได้ของเพลงกว่า 137 เพลง 27 อัลบั้ม ตลอด 18 ปีของการเป็นศิลปินของเขา

ตอนวันที่ 18 พ.ย. อีซึงกิ เปิดเผยว่า
ได้ยื่นคำเรียกร้องขอหลักฐานแสดงรายได้รวมทั้งรายจ่ายทั้งหมดจากการทำเพลงของเขาตลอดเวลา 18 ปี
สำหรับในการเป็นศิลปินในค่ายเพลง Hook Entertainment ภายหลังที่ Hook Entertainment ถูกตำรวจสอบสวนข้อหายักยอก
รวมทั้งฉ้อโกง ตอนวันที่ 10 พ.ย. ก่อนหน้านี้

ทางด้าน Hook Entertainment ออกมาตอบโต้ว่า ทางสังกัดทราบคำเรียกร้องของอีซึงกิแล้ว
ทางค่ายจะพยายามแก้ไขปัญหานี้ไม่ให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจผิด
อย่างไรก็แล้วแต่ สำนักข่าว Dispatch ออกมาเผยออกมาว่า อีซึงกิ ไม่ได้รับเงินที่เป็นรายได้จากการทำเพลงให้กับ Hook Entertainment
เลยสักวอนเดียวตลอดเวลา 18 ปีสำหรับในการเป็นศิลปิน ทั้งที่เป็นเจ้าของผลงานเพลงทั้งหมด 137 เพลงจาก 27 อัลบั้ม

อีซึงกิ มีชื่อเสียงในฐานะศิลปินตั้งแต่ปี 2004 ที่เขาเดบิวต์ เพลงของเขาถูกใช้เป็นเสียงเรียกเข้า รวมทั้งเสียงรอสายโทรศัพท์ รวมทั้งเพลง background
ในเว็บโซเชียลมีเดียยอดนิยมอย่างยิ่งในตอนนั้นอย่าง Cyworld มาก ๆ
ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2009 จนถึงเดือนกันยายน ปี 2022 รายได้จากเพลงของอีซึงกิมีมูลค่ามากถึง 9.6 พันล้านวอน หรือประมาณ256 ล้านบาทอย่างยิ่งจริง ๆ

ในหลักฐานแสดงรายได้จากเพลงของอีซึงกิที่ Dispatch
ได้มา ในช่องที่แสดงรายได้ในตอนเดือนมิถุนายน ปี 2004 ถึงส.ค. ปี 2009 หายไป ก็เลยทำให้ไม่สามารถรู้จำนวนรายได้ที่ชัดเจน
เวลานี้ ที่อีซึงกิมีเพลงตามที่มีชื่อเสียงทั้งประเทศ
อย่าง เพลงBecause You’re My Woman
รวมทั้ง “Delete” ที่ปล่อยมาในปี 2004 เพลง “Please” รวมทั้ง “Hard to Say” ที่ปล่อยในปี 2006 เพลง “I’ll Give You All” รวมทั้ง “Let’s Go on a Vacation” ที่ปล่อยปี 2007 รวมทั้งเพลง “Will You Marry Me” ที่ปล่อยในปี 2009
ตามข้อสัญญาที่อีซึงกิได้เซ็นไว้กับค่าย จริง ๆ แล้วอีซึงกิต้องได้รับเงิน 60% จากยอดขายเพลงตั้งแต่ปี 2009 ถึง 2016 (6.5 พันล้านวอน หรือกว่า 173 ล้านบาท)
รวมทั้งเพิ่มเป็น 70% ในตอนปี 2017-2022 (2.9 พันล้านวอน หรือกว่า 77 ล้านบาท) หมายความว่าจริง ๆ แล้ว
เขาต้องทำเงินได้ 5.8 พันล้านวอน หรือแทบ 155 ล้านบาท ยังไม่รวมรายได้ 5 ปีที่หายไปในหลักฐานแสดงรายได้ด้วย

นอกเหนือจากนั้น อีซึงกิ ยังมีข้อพิพาทกับซีอีโอของ Hook Entertainment
หลังจากเขาทราบเรื่องจากผู้จัดการของเขาว่า ซีอีโอของ Hook แสดงอารมณ์โมโหภายหลังที่ฝ่ายเขาพยายามเรียกขอหลักฐานการรับรองด้านการจัดการสิทธิ์การใช้งานเพลงของเขาในคอนเทนต์ต่าง ๆ
รวมทั้งทางซีอีโอยังบอกอีกว่า ตัวเขาเองขอเอาชื่อรวมทั้งชีวิตเป็นเดิมพันว่า จะขอฆ่าอีซึงกิแบบไม่ให้พลาดแน่ ๆ แต่ว่าจนแล้วจนรอดผ่านไปประมาณ1 ปี
เขาก็ยังไม่ได้ผลสรุปจากค่ายต้นสังกัด ทางอีซึงกิก็เลยขอดำเนินเรื่องต่อผ่านกฎหมายรวมทั้งทนายส่วนตัวต่อไป

อีซึงกิ ระบุว่า “มันน่าเสียใจมาก ๆ ที่ผมผู้ทำงานอย่างหนักมาตลอด 37 ปีต้องมาถูกมองอย่างด้อยค่าและถูกด่าเหมือนเด็กมัธยมอายุ 18 ปี ต่อไปผมจะพูดผ่านตัวแทนฝ่ายกฎหมายของผมแทน ขอบคุณสำหรับความเข้าใจ และผู้จัดการคิมของผม รวมถึงผมด้วย ทำงานอย่างหนักเพื่อ Hook มาโดยตลอด ดังนั้นไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมที่จะกระทำสิ่งเหล่านั้นกับผู้จัดการคิม”

“ผม อีซึงกิ ครอบครัวของอีซึงกิ ผู้จัดการของอีซึงกิ และคนรู้จักของอีซึงกิ ทั้งหมดนี้ถูกเมินเฉยจากซีอีโอควอนจินยองมาโดยตลอด ผมต้องออกมาต่อสู้เพื่อไม่ให้บุคคลเหล่านี้ของผมถูกเมินเฉยอีกต่อไป ถ้าซีอีโอยังกล้าพูดจาหยาบคายหรือข่มขู่ผม นั่นอาจหมายความว่าผมอาจเป็นดาราไม่ได้แล้ว ก็ขอให้เป็นโชคชะตาของผมแต่เพียงผู้เดียว ผมไม่อยากให้เรื่องนี้มันแย่ไปกว่านี้ ต่อไปนี้กรุณาติดต่อหาผมผ่านทนายของผมด้วย”

มักจะอยู่ร่วมในทุกโมเมนต์สำคัญของหนุ่ม นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ บ่อย ๆ กระทั่งโดนจับจิ้นกันไม่ไหว
ล่าสุดนี่ฮือฮาอีกแล้วเมื่อสาว ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ โผล่ไปร่วมสังสรรค์วันเกิดของ แม่หมู-พิมพ์ผกา แม่สุดเลิฟของ นาย กระทั่งถูกเห็นว่าทำหน้าที่ว่าที่ลูกสะใภ้

เมื่อวันก่อนพบ ใบเฟิร์น จึงเอ่ยถามเรื่องราวเป็นยังไง ใบเฟิร์น เปิดใจว่า

“พอดีเป็นวันเกิดแม่ก็ส่งเค้กไปค่ะ ไปแฮปปี้เบิร์ธเดย์แม่แทบทุกปีอยู่แล้วค่ะ แต่ก็มีแต่เค้กไม่ได้มีของขวัญอะไร ก็เป็นลูกสาวแม่ค่ะ แม่รักมาก”

แล้วลูกชายแม่ล่ะไม่รักเหรอ?

“อุ้ย ต้องไปถามเขาค่ะ คือเราสองคนก็สนิทกันอย่างนี้มาตั้งนานแล้วค่ะ เราเป็นอย่างนี้กันมานาน 4 ปี 5 ปีแล้ว”

Baifern ดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของบ้านนี้ไปแล้วนะ?
“วันเกิดแม่อย่างเดียวค่ะ แต่เหมาทุกปีค่ะ แม่หมูก็ไม่ได้ว่ายังไงนอกจากจะแซวแค่ว่าเค้กไม่ค่อยเหมือนแม่นะเฟิร์น”

แม่หมูมีพูดอยากได้เป็นลูกสะใภ้มั้ย?
“ไม่แล้วค่ะ ไม่ได้พูดนานแล้ว เป็นแนวโบ๊ะบ๊ะค่ะ หนูกับนายก็ชอบกวนประสาทแม่ แต่กับพวกหนูแม่ไม่เคยดุเลยค่ะ ใจดีมาก”

เข้าข้างเรามากกว่าลูกชายหรือไม่?
“ก็เป็นไปได้นะคะ”

หลาย ๆ คนก็ยังเชียร์อยู่นะ Baifernกับนาย?
“หนูชินแล้วน่ะค่ะ คือมันก็นานมากแล้ว มีช่วงที่เชียร์จัดๆ แต่หลังๆก็ไม่ค่อยแล้ว ก็เข้าใจค่ะ พวกหนูขำกันมากกว่า บางทียังมีส่งให้ดูเลยว่าเขาแซวแบบนี้ มีแซวให้ผีผลักด้วยนะ ก็ส่งให้กันดูเหมือนกันค่ะ”

แสดงว่าลุ้นไม่ขึ้น?
“มันก็เป็นความสนิทกันแบบนี้มานานมากแล้วจริงๆค่ะ หนูก็รู้สึกว่าหนูตอบเรื่องนี้มานานแล้ว”

เหตุนี้มั้ยที่ทำให้ไม่มีใครเข้ามาจีบเราเลยเพราะก็ประกาศไม่มีแฟนมา 4 ปีแล้ว?
“ก็ไม่ค่อยมีใครเข้ามาอยู่แล้วนะคะ ถ้าตอบว่ามีบ้างก็คือโกหก ค่ะ เพราะไม่ค่อย มีจริงๆค่ะ ส่วนที่บอกว่าเป็นเพราะมีข่าว จิ้นกับนายหรือเปล่า เฟิร์นว่าไม่น่าเกี่ยว เราเป็นคนที่ทำงานเยอะมาตลอด สังคมของเราก็จะเป็นแค่สังคมกองถ่าย อยู่กับผู้จัดการกับเพื่อน มันก็เลยไม่ได้เจอใครใหม่ๆหรือเราอาจจะดูห้าวไป ดูนิสัยไม่ดีแบบนี้หรือเปล่า เขาเลยไม่เข้ามาจีบ ก็อายเขานะ ประกาศมา 4 ปีแล้ว ก็ไม่เห็นจะมีใครเข้ามา ไม่เคยซุกใครไว้เลยค่ะ”

5 ผลงานสุดปังของ ‘ Baifern พิมพ์ชนก ‘

ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ นางเอกสาวคิวทองมากความสามารถ คิวงานของเธอนั้นพูดได้ว่าแน่นเอี๊ยดด
ด้วยความสามารถทางการแสดงของเธอ ที่ตีบทแตกให้คุณผู้ชมอินกันเป็นแถบ วันนี้พวกเราเลยต้องการจะชวนมาส่อง 5 ผลงานสุดปังของสาว ‘Baifern พิมพ์ชนก’ กัน!

1. First Love: สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก (2010)
ประเภท: ภาพยนตร์ (ความยาวประมาณ 1 ชั่วโมง 58 นาที)
รับบทเป็น: น้ำ
นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักตำนาน “น้องน้ำพี่โชน” เป็นแน่น เรื่องราวของ น้ำ เด็กสาววัยมัธยม หน้าตาบ้าน ๆ ที่ดันไปตกหลุมรักรุ่นพี่สุดหล่อ พี่โชน (รับบทโดย มารีโอ้ เมาเร่อ) ในโรงเรียน เธอลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคนที่เธอชอบ ก่อนที่จะเผยความในใจให้เขาได้รับรู้

สำหรับ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก แล้วนั้น เธอสามารถอินกับบทบาท เข้าถึงคาแรคเตอร์ได้ดีมาก จุดเด่นของเธอ คือ การเล่นเป็นตัวละครที่หลายคนแทบไม่สังเกตเห็นเลยว่าเธอกำลังแสดงอยู่ และเรื่องนี้จึงถือเป็นการแจ้งเกิดของเธอในวงการอีกเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ค่ะ แต่ ๆ อย่าเพิ่งงงกันไปนะคะ เพราะผลงานแจ้งเกิดเรื่องแรกของสาวBaifernจริง ๆ คือ ละครทางช่อง 7 เรื่องอสูรน้อยในตะเกียงแก้ว ที่รับบทเป็น แนนนี่ นั่นเอง
ภาพยนตร์เรื่อง สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก ดังไกลไปถึงหลายประเทศจนถึงปัจจุบันก็ยังมีคนย้อนกลับไปดูอยู่เป็นจำนวนมาก และเมื่อไม่นานมานี้เอง ‘อวี๋ปิน’ นักแสดงจากซีรีส์จีนเรื่อง “ปรมาจารย์ลัทธิมาร” ได้รับชมแล้วถึงขึ้นต้องถามหาเป็นภาษาจีนว่า “女主角叫什么名字?” หรือที่แปลได้ว่า “นางเอกคนนี้ชื่ออะไรหรอ” สาวBaifernของเราเรียกได้ว่าฮ็อตไปไกลจริง ๆ ค่ะ !

2. Friend zone…ระวัง สิ้นสุดทางเพื่อน (2019)
ประเภท: ภาพยนตร์(ความยาวประมาณ 1 ชั่วโมง 59 นาที)
รับบทเป็น: กิ๊ง
เอาใจชาวแอบรักเพื่อนสนิทกันบ้างกับภาพยนตร์มาแรงต้อนรับวันวาเลนไทน์ในปี 2019 Friend Zone เรื่องราวของ กิ๊ง หญิงสาวสายลุยในด้านความรัก เธอมีเพื่อนชายคนสนิทคือ ปาล์ม (รับบทโดย นาย ณภัทร) หนุ่มฮ็อตในโรงเรียน เมื่อทั้งคู่โตขึ้น กิ๊ง มีแฟนที่รักกันมากแต่ดันพบว่าแฟนดันนอกใจ งานนี้ ปาล์ม ที่เป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อของเธอที่แอบชอบเธอมาเกือบ 10 ปีในฐานะเพื่อนจึงต้องออกโรงจับเท็จ!
เรียกได้ว่าเป็นตำนานคู่จิ้นคู่ใหม่ของวงการเลยก็ว่าได้กับ นาย-Baifern ด้วยความสามารถของทั้งคู่บวกกับเคมีที่แสนจะลงตัว ทำเอาชาวเน็ตเขินและอินในความน่ารัก ขี้แกล้ง ขี้เล่นไม่ไหว ทั้งสองยังบอกอีกว่าเป็นการร่วมงานกันครั้งแรก แต่เพียงแค่ผ่านการทำเวิร์คช้อปด้วยกันเจ้าตัวกลับสนิทกันได้ไวมาก เป็นโมเมนต์ที่รักสุด ๆ เลยค่ะ

3. ใบไม้ที่ปลิดปลิว
ประเภท: ละคร (21 ตอน)
รับบทเป็น: นิรา
การพลิกบทบาทครั้งใหญ่ของสาว ใบเฟิร์น ในการเล่นเป็นตัวละคร ‘นิรา’ สาวประเภทสองที่ต้องต่อสู้เพื่อตนเองและกลับมาแก้แค้นทุกคนที่เคยทำให้เธอได้รับความเจ็บปวด ในละครเรื่องนี้สาวใบสามารถตีบทแตกมาก ๆ ทำเอายอดคนดูพุ่งกระฉูด นอกจากนี้ ใบเฟิร์น ยังได้รับโหวตจากแฟน ๆ ในรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม “BEST ACTRESS” Thai Crazy Awards 2020 จากบท ‘นิรา’ ในเรื่องอีกด้วยค่ะ สวย เก่ง และมากความสามารถสุด ๆ

4. The Con-Heartist: อ้าย คนหล่อลวง (2020)

ประเภท: ภาพยนตร์ (ความยาวประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที)
รับบทเป็น: อินา
ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ ตีแผ่เรื่องราวชีวิตของ อินา อดีตพนักงานธนาคารที่โดน ทาวเวอร์ (รับบทโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ) แก๊งต้มตุ๋นทางคอลเซนเตอร์หลอกเอาเงิน เรื่องราวดำเนินไปจนท้ายที่สุดทั้งคู่ต้องหันมาทำภารกิจหลอกเงินคืนร่วมกันเพื่อไม่ให้ถูกจับส่งตำรวจ ด้วยคาแรคเตอร์ของ อินา เป็นคนที่มีอารมณ์หลากหลาย แต่อินเนอร์ของ สาวใบเฟิร์น นั้นทำให้เธอเอาอยู่ได้ทุกสถานการณ์ ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่พลาดไม่ได้เลยทีเดียว

5. A Tale Of Ylang Ylang: สร้อยสะบันงา (2022)
ประเภท: ละคร (16 ตอน)
รับบทเป็น: งาม / สร้อยสะบันงา
การกลับมาเจอกันอีกครั้งของคู่จิ้น นาย-Baifern ที่เรียกได้ว่าเป็น Friend zone เวอร์ชัน พี่เทียน น้องงาม เลยก็ว่าได้ ละครไทยแนวพิเรียด ดราม่า บอกเล่าเรื่องราวชีวิตและความรักของลูกกบฎอย่าง ‘งาม’ ที่พยายามจะเปลี่ยนตัวเองให้เทียบเท่าผู้มีอันจะกินในสมัยนั้น โดยมีพี่เทียนคอยอยู่เคียงเธอเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งนี้ละครเรื่องสร้อยสะบันงายังถือเป็นการร่วมงานครั้งแรกของBaifernกับทาง ช่อง 3 อีกด้วยค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับ 5 ผลงานการแสดงสุดปังของสาว Baifern พิมพ์ชนก เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงที่เก่ง มากความสามารถ ทางเราขอชื่นชมจริง ๆ ค่ะ และมากไปกว่านั้น
Baifern ยังมีช่อง YouTube ให้ทุกคนได้ติดตามอัปเดต Lifestyle ที่ชื่อว่า Fern Zone ทำร่วมกับผู้จัดการส่วนตัวของเธอที่ชื่อเดียวกันอีกด้วย อย่างไรก็ตามทุกคนสามารถไปติดตามผลงานอื่น ๆ ของ Baifernได้ที่

FB: ใบเฟิร์น – พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ (Baifern – Pimchanok)
IG: @baifernbah
YouTube: FERNZONE Channel

วันนี้พวกเรามี ซีรีส์ วัยรุ่นเด็กวัยทีนมาแนะนำ ซีรีส์เกาหลี Dear.M จดหมายรักปริศนา แนวรักโรแมนติกที่เล่าราวของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ในเรื่องราวความรักแล้วก็มิตรภาพผ่านจดหมายรักปริศนาที่ใช้ชื่อว่า Dear.M นำแสดงโดย พัคฮเยซู แจฮยอนNCT แบฮยอนซอง โนจองแอ อีจินฮยอก แล้วก็Woo Da Vi
เรื่องราวความชลมุนวุ่นวายในมหาวิทยาลัยที่นี้จะบันเทิงใจสุดหรรษาอย่างไรไปติดตามอ่านเรื่องย่อแล้วก็รีวิวพร้อม ๆ กันได้เลยค่า ^^

นักแสดงนำ
พัคฮเยซู รับบทบาทเป็น มาจูอา นักศึกษาคณะบริหาร สาวน้อยร่าเริง บุคลิกลักษณะสดใส เพื่อสาวคนสนิทของชามินโฮ
แจฮยอน รับบทบาทเป็น ชามินโฮ นักศึกษาคณะวิศวะคอมพิวเตอร์ หนุ่มหล่อนิสัยดี มีความเสียสละ แถมยังฉลาดมากสามารถสร้างแอพพลิเคชั่นเป็นของตัวเองได้
แบฮยอนซอง รับบทบาทเป็น พัคฮานึล นักศึกษาคณะวิศวะคอมพิวเตอร์ หนุ่มน้อยน่ารัก มีความเป็นสุภาพบุรุษ แฟนหนุ่มสุดมึนของซอจีมิน
โนจองแอ รับบทบาทเป็น ซอจีมิน นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ สาวสวยของชมรมเชียร์ แฟนสาวของพัคฮานึล แฟนที่โด่งดังที่สุดในมหาวิทยาลัย

เรื่องย่อ ซีรีส์เกาหลี

เล่าเรื่องราวของกลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัยซอยอน ภายหลังจากจบคลาสเรียนวิชาถ่ายรูปได้มีโพสต์สารภาพรักในกลุ่มของซอไลฟ์
โดยใช้ชื่อว่า ‘เมเปิ้ลลาเต้’ ซึ่งเป็นโพสต์ยอดนิยมแล้วก็ได้รับความสนใจจากวัยรุ่นในมหาวิทยาลัยเป็นอันมาก
จนถึงวันหนึ่งได้มีโพสต์สารภาพรักเกิดขึ้นอีกครั้งแต่ในคราวนี้กลับใช้ชื่อว่า ‘dear.m’
ทำให้เรื่องราวกลับน่าสงสัยมากยิ่งขึ้น ใครที่เป็นเจ้าของจดหมายสารภาพรักแล้วก็ทั้งคู่จะใช่คนเดียวกันไหม จะต้องไปติดตามชมกัน

การดำเนินเรื่อง
ซีรีส์เกาหลี ปูเรื่องด้วยการเล่าเรื่องราวของตัวละครหลักจนกระทั่งไปถึงแก่นของเรื่อง โพสต์สารภาพรักในกลุ่มซอไลฟ์จากผู้ใช้ชื่อ เมเปิ้ลลาเต้ ซึ่งเป็นแก่นเรื่องปริศนาที่เชื่อมโยงกับตัวละครหลัก
นอกจากนี้ก็ยังเพิ่มความน่าสงสัยด้วยโพสต์สารภาพรักอีกหนึ่ง แต่แตกต่างที่ชื่อผู้ใช้งาน
แล้วก็นั้นก็ทำให้พวกเรามีความรู้สึกว่าจดหมายรักปริศนานั้นมาจากคนเดียวกันไหม
หรือโพสต์สารภาพรักนั้นจะเป็นตัวเดินเรื่องของตัวละครหลักระหว่าง จูอากับมินโฮแล้วก็ฮานึลกับจีมิน เดาทางไม่ถูกจริง ๆ

ให้คะแนน 8.5/10 คะแนน
ความสนุกสนานร่าเริงเข้มข้น การเดินเรื่องที่ท้าแล้วก็ลุ้นไปกับทุกความเกี่ยวพันของวัยรุ่นในมหาวิทยาลัยที่นี้
ไม่ว่าจะเป็นการเรียน ความรัก แล้วก็มิตรภาพ บอกเลยว่าบันเทิงใจครบรสอย่างไม่ต้องสงสัย แล้วก็นอกจากนี้เนื้อหาก็ยังคงทิ้งปริศนาเกี่ยวกับการสารภาพรักที่มีผู้ต้องสงสัยเป็นตัวละครหลักของเรื่องแล้วก็ได้เผยตัวละครลับออกมาอีกด้วย
ไม่แน่ว่าบางครั้งอาจจะเป็นตัวหลอกหรือเรื่องราวทั้งหมดจะมีบุคคลที่อยู่เบื้องหลังอีกก็ได้

ดูซีรีส์ประเทศเกาหลี “Dear.M จดหมายรักปริศนา” ฉบับซับไทย-พากย์ไทยครบทุกตอน

แล้วก็ถือคิวของซีรีส์ประเทศเกาหลีที่แฟนคลับรอคอย นี่คือ “Dear.M จดหมายรักปริศนา”
ซีรีส์โรแมนติกใส ๆ ที่เป็นการประชันบทบาทของทีมนักแสดงเจนใหม่ และยังเป็นผลงานการแสดงเรื่องแรกของไอดอลชายหนุ่มฮอต “แจฮยอน NCT” ที่สมทบด้วย “พัคฮเยซู”, “โนจองอี” แล้วก็ “แบฮยอนซอง” มาติดตามเรื่องราวโรแมนซ์ในวัยพวกเขากัน

Dear.M จดหมายรักปริศนา เกิดเรื่องราวการหาตามหาว่าใครกันนะที่คือ “M” บุคคลปริศนาที่เขียนข้อความลงในบอร์ดสาธารณะของมหาวิทยาลัยซอยอน
แล้วก็สร้างความสะเทือนหัวใจไปทั่ววิทยาเขตการศึกษาแห่งนี้ โดยทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นผู้ต้องสงสัยที่มีความเป็นไปได้
ไม่ว่าจะเป็น มาจูอา ที่ถวิลหาความรักแต่ยังไม่เคยมีความรักเป็นตัวเป็นตนมาก่อน, ชามินโฮ เพื่อนสนิทของ มาจูอา มาเป็นสิบ ๆ ปี หรือ ซอจีมิน สมาชิกทีมเชียร์ที่เปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์อันพราวแพรว
แล้วก็ยังมี พัคฮานึล หนุ่มฮอตที่ผู้หญิงจะต้องกรี๊ดร้องขอชีวิต คนนั้นจะเป็นใครกัน ?
เพื่อน ๆ ที่ชอบซีรีส์แนวความรักวัยรุ่นไม่สมควรพลาด เค้าเรื่องค่อนข้างสะดุดตา
แฟนคลับของชายหนุ่มแจฮยอนจะต้องไปชมค่ะ^^

23 เรื่องจริง แจฮยอน ที่คุณอาจไม่เคยรู้ ก็ได้

ชื่อในแวดวง แจฮยอน
ชื่อจริง จอง ยุนโอ
เกิดวันที่ 14 เดือนกุมภาพันธ์ ปี 1997 (พ.ศ. 2540) ตอนนี้อายุ 25 ปี
ตำแหน่งในวง นักร้องหลัก / แร็ปเปอร์เสริม / ภาพลักษณ์
น้ำหนัก 63 กิโลกรัม
ความสูง 180 ซม.
สัญชาติ ประเทศเกาหลีใต้
IG_jeongjaehyun

1 เดิมชื่อเกิดของแจฮยอนคือ จอง แจฮยอน (ตามชื่อในไอจี) แต่ถัดมาได้เปลี่ยนเป็น จอง ยุนโอ
2 แจฮยอนเคยอาศัยอยู่ในรัฐคอนเนตทิคัต (อเมริกา) ตั้งแต่ขณะที่เขาอายุ 5 – 10 ขวบ หลังจากนั้นก็เลยได้ย้ายกลับมาอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้
3 ชื่อภาษาอังกฤษของแจฮยอนคือ เจย์ เพราะเหตุว่าขณะที่แจฮยอนเรียนที่อเมริกา คุณครูไม่สามารถที่จะออกเสียงชื่อจริงว่า “แจฮยอน” ได้ คุณครูก็เลยเรียกว่า เจย์
4 มีลักยิ้ม เวลายิ้ม
5 เป็นลูกคนเดียว
6 ความสามารถพิเศษของแจฮยอนคือ แร็พ เล่นเปียโน กีฬาบาสเก็ตบอล กีฬาว่ายน้ำ
7 มีขนตามร่างกายมากมาย
8 บางทีแจฮยอนก็มีความอ่อนไหวมาก
9 พูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว
10 โกหกไม่เก่งเลย เพราะเหตุว่าเมื่อใดก็ตามเขาโกหกหูของแจฮยอน จะเปลี่ยนเป็นสีแดง
11 ชอบนอนกอดผ้าห่ม
12 มักตื่นเช้าตรู่
13 ทานเยอะ บางทีก็ขโมยอาหารของสมาชิกคนอื่นมาทาน
14 ชอบทานเนื้อ, หมูสไปซี่ , ไอศกรีมชาเขียว
15 ชื่นชอบฤดูใบไม้ผลิ
16 ชอบสีขาว
17 ชื่นชอบ ไอยู
18 ชื่นชอบนักแสดงอเมริกา คือ Leonardo Dicaprio (ลีโอนาโด ดีแคพริโอ) นักแสดงชื่อดังจากภาพยนต์เรื่อง Titanic
19 ส่วนใหญ่ตอนเป็นเด็กฝึก ตำแหน่งของแจฮยอนคือ แร็ปเปอร์ แต่พอได้เดบิวต์ในวง NCT แจฮยอนก็ได้รับตำแหน่ง นักร้องหลัก
20 แจฮยอนเดบิวต์ในยูนิต NCT U ครั้งแรกในปี 2016 แล้วก็เดบิวต์อีกครั้งในยูนิต NCT 127 ในปีเดียวกัน
21 DK (โด-คยอม) วง Seventeen เคยบอกว่า เขาเคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน แต่ DK ไม่กล้าทักทายแจฮยอน เพราะเหตุว่าแจฮยอนหล่อเกินไป
22 แจฮยอนดูแลน้อง ๆ ในวงได้ดี
23 แจฮยอนคอแข็งมาก

Connect ซีรีส์แนวแฟนตาซีลึกลับที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง ผู้กำกับคนประเทศญี่ปุ่นชื่อดัง มิอิเกะ ทาคาชิ แล้วก็ นักแสดงประเทศเกาหลีแถวหน้าอย่าง จองแฮอิน โกคยองพโย แล้วก็ คิมฮเยจุน
จัดแจงจ่อคิวลงหน้าจอ ให้พวกเราร่วมลุ้นระทึกไป กับเรื่องราวของ ชายอมตะผู้ถูกเชื่อมโยงกับฆาตกรต่อเนื่องอย่างลึกลับ
ในวันที่ 7 เดือนธันวาคมนี้ ทาง Disney+ Hotstar

ซีรีส์ออริจินัล Connect เป็นซีรีส์แฟนตาซี – ลึกลับ

ว่าด้วยเรื่องราวของ มนุษย์อมตะนามว่า ฮาดงซู (รับบทบาทโดย จองแฮอิน) ผู้ถูกลักพาตัวโดยแก๊งค้ามนุษย์ที่คาดหวังจะขโมยดวงตาของเขาไป แล้วก็เมื่อตื่นขึ้นมาขณะกำลังถูกผ่าตัด
เขาก็ได้พยายามหนีพ้นสุดชีวิตด้วยดวงตาที่มีคงเหลืออยู่เพียงแค่ข้างเดียวเท่านั้น แต่ว่าแล้วเขากลับต้องมาพบว่า ตนยังสามารถเห็นด้วยดวงตาที่หายไปอีกข้างได้อยู่ แล้วก็ได้รับรู้ว่าคนที่เป็นเจ้าของคนใหม่ของดวงตาอีกข้างนั้นไม่ใช่ใคร
นอกจาก ฆาตกรโรคจิตสุดอื้อฉาวที่กำลังสร้างความหวาดกลัวไปทั่วกรุงโซล
หนทางเดียวที่จะทำให้ได้สิ่งที่เคยเป็นของเขากลับมา คือการไล่ล่าฆาตกรต่อเนื่องแล้วก็ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองกลับมาเป็นอย่างเดิม

ความน่าสนใจที่ทำให้คุณไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้ คือ

การโคจรมาร่วมงานกันครั้งยิ่งใหญ่ ของผู้กำกับชื่อดังสัญชาติประเทศญี่ปุ่น อย่าง มิอิเกะ ทาคาชิ
เจ้าของผลงานชื่อก้อง อาทิ Audition, Ichi the Killer แล้วก็ Gozu
ซึ่งมาลงมือกำกับซีรีส์ประเทศเกาหลีเป็นครั้งแรก แล้วก็ได้นักแสดงระดับแนวหน้าของประเทศเกาหลีมาถ่ายทอดเรื่องราวการไล่ล่าสุดชั่วร้าย
เพื่อทวงคืนดวงตาที่ถูกช่วงชิงไป ไม่ว่าจะเป็น จองแฮอิน ที่รับบทบาท ฮาดงซู หนุ่มผู้มีพลังวิเศษในการรักษาร่างกายตน
แล้วก็สามารถมองเห็นสิ่งที่ฆาตกรต่อเนื่องกำลังทำอยู่ได้ โกคยองพโย กับบท โอจินซอบ ฆาตกรต่อเนื่องสุดอื้อฉาว แล้วก็ คิมฮเยจุน ในบท อีรัง หญิงสาวผู้มีความลับซ่อนอยู่

ภายหลังได้สร้างกระแสตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามจากเหล่านักวิจารณ์ในการฉายรอบสื่อมวลชนที่ Busan International Film Festival’s On Screen program ในที่สุด
ผู้ชมทั่วโลกก็ใกล้จะได้รับชมซีรีส์ประเทศเกาหลีสุดตื่นเต้นเรื่อง Connect ทั้ง 6 ตอนกันแล้ว เตรียมนับถอยหลังรอคอยสตรีมพร้อมกัน 7 เดือนธันวาคมนี้ ทาง Disney+ Hotstar

จองแฮอิน เล่าความยากในการ ‘ปิดตาข้างเดียว’ ถ่ายทำซีรีส์ใหม่ ‘Connect’

จองแฮอิน กำลังจะคัมแบ็กผลงานการแสดงชิ้นใหม่ให้แฟน ๆ ได้ติดตามเร็ว ๆ นี้
ผ่านผลงานซีรีส์ Connect ซึ่งเจ้าตัวได้มีโอกาสเล่าถึงเบื้องหลังการถ่ายทำซีรีส์ที่แสนท้าทายในการต้องสวมที่ปิดตาในหลายฉากของเรื่อง

โดยเมื่อปลายอาทิตย์ก่อนหน้านี้  ได้มีการจัดงานแถลงข่าวขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการได้รับชักชวนให้เข้าฉายในเซคชั่น On Screen ของงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน (Busan International Film Festival) ครั้งล่าสุด
แล้วก็ จองแฮอิน ที่เป็นหนึ่งในนักแสดงนำของเรื่อง ร่วมกับ โกคยองพโย คิมฮเยจุน ก็ได้มีโอกาสแบ่งปันเรื่องราวเบื้องหน้าเบื้องหลังการถ่ายทำผลงานนี้
เนื่องจากว่าคาแรคเตอร์ของ จองแฮอิน เป็นตัวละครที่สูญเสียดวงตาไป ทำให้เขาต้องถ่ายทำโดยใส่ที่ปิดตา ซึ่ง จองแฮอิน ได้เล่าถึงความยากแล้วก็ความท้าทาย
ในการแสดงที่ในบางครั้งต้องเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย ว่า

“ตัวละครนี้จะต้องสวมใส่ที่ปิดตาอยู่ตลอดครับ ซึ่งในตอนที่เราอยู่ในช่วงพักกัน ผมจะถอดออก แต่ผมคิดว่าสายตาของผมแย่ลงนิดหน่อย เพราะว่าผมต้องมองทุกอย่างด้วยตาข้างเดียว บางครั้งก็รู้สึกมึนหัวด้วยครับ เพราะว่าผมไม่สามารถที่จะบอกระยะได้ว่ามันใกล้ไกลขนาดไหนระหว่างที่ใส่ที่ปิดตา โดยเฉพาะตอนที่ถ่ายทำฉากแอคชั่น ซึ่งหลายครั้งมันก็เป็นอะไรที่อันตรายครับ”

อย่างไรก็ตาม จองแฮอิน ได้กล่าวแม้กระทั่งได้เบาใจ ว่า “แต่ผมยังจำได้ดีว่าเราสามารถผ่านมาได้อย่างดีขนาดไหน เพราะว่าทีมนักแสดงคนอื่น ๆ ที่ทำออกมาได้ดี และเพราะเราฝึกซ้อมกันมามากด้วยครับ”

커넥트 เป็นผลงานซีรีส์ออริจินอลแนวลึกลับ – ตื่นเต้นจาก Disney+

ที่อ้างอิงมาจากเว็บตูนในชื่อเดียวกัน ว่าด้วยเรื่องราวของ ฮาดงซู (รับบทโดย จองแฮอิน) หนุ่มปกติที่ถูกลักพาตัวแล้วก็
สูญเสียดวงตาหนึ่งข้างให้กับนักล่าอวัยวะ ซึ่งการสูญเสียดวงตาของเขาในครั้งนั้น จึงทำให้เขาสามารถเชื่อมโยงกับผู้ที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะไปจากเขาได้
ซึ่งต่อมาเขาได้มารู้เรื่องรู้ราวจริงว่าดวงตาข้างนั้นได้ถูกเปลี่ยนถ่ายไปยังฆาตกรต่อเนื่อง โอจินซอบ (รับบทโดย โกคยองพโย) ที่ทำให้เขาได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่ไม่สมควรเกิดขึ้น การไล่ล่าฆาตกรต่อเนื่องเพื่อทวงคืนดวงตาของเขาจึงเริ่มขึ้น

ซีรีส์ ได้เผยแพร่ 3 ตอนแรกจากทั้งหมด 6 ตอน ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน แล้วก็จะเผยแพร่ให้ชมพร้อมกันทั่วโลกทั้งหมด 6 ตอน ผ่านทาง Disney+ ในธันวาคมนี้ แฟน ๆ รอคอยติดตามชมกัน

ทีเซอร์แรก บอกใบ้การไล่ล่าสุดโหด โดยมี ‘ดวงตา’ เป็นเดิมพัน! จ่อฉายบน Disney+ สิ้นปีนี้

ชื่อเรื่อง : Connect | 커넥트
แนว : ลึกลับ | ระทึกขวัญ
ผู้กำกับ : ทาคาชิ มิอิเกะ (ผลงานก่อนหน้า กำกับภาพยนตร์ญี่ปุ่น The Great Yokai War: Guardians)
คนเขียนบท : มาซารุ นากามูระ
ช่อง : Disney Plus Hotstar พร้อมซับไทย
จำนวนตอน : 6 ตอน
ช่วงเวลาออนแอร์ : ธันวาคม 2565